การพัฒนาเชิงพื้นที่ คือ การบริหารจัดการพื้นที่ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ ภาควิชาการและองค์กรพัฒนาต่างๆ จากปัญหาที่สะท้อนโดยชุมชน ลำดับความสำคัญของปัญหา สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ดำเนินงานในลักษณะทำไป ปรับไป เรียนรู้ไป เพื่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบและกลไกการทำงานที่สามารถจัดการประเด็นปัญหาหรือความต้องการของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง การดำเนินงานจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจ ก่อให้เกิด สร้างให้มีขึ้นและรักษาให้ยั่งยืนโดยคนในชุมชน
การพัฒนาเชิงพื้นที่มุ่งเป้าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Area Based Approach)
“การพัฒนาเชิงพื้นที่” เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) ที่ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ซึ่ง สท. ได้วิเคราะห์สถานภาพ บริบทและความต้องการเทคโนโลยีในแต่ละพื้นที่ ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชน หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ กำหนดโจทย์และแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภายในและภายนอก (ภาครัฐ-เอกชน-ชุมชน) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระตุ้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ในชุมชนและระหว่างชุมชน พัฒนาและบริการกลไกการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ องค์กรอิสระ เอกชนและสถาบันการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดการพัฒนาตลอดห่วงโซ่
สท. ได้กำหนดพื้นที่โดยมีเป้าหมาย 2 ด้าน ได้แก่
• การสร้างอาชีพและสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ ชุมชนมีความรู้และได้รับการพัฒนาทักษะที่สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ความมั่นคงด้านอาชีพและรายได้
• การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาด โดยใช้ให้น้อยแต่เกิดประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงระยะเวลาการใช้ให้ยาวนานและก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนทั้งในเมืองและชนบทที่บริหารจัดการท่องเที่ยวในทิศทางที่ยั่งยืน ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน
ท้้งนี้ สท. ได้สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน ดำเนินงานโครงการ “การพัฒนาเศรษฐกิจด้วย BCG Model พื้นที่นำร่องทุ่งกุลาร้องไห้ (ปี พ.ศ.2567-2571)” ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธรและมหาสารคาม
องค์ประกอบของชุมชนมุ่งเป้า กำหนดขึ้นจากการบูรณาการปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 5 ปัจจัย และระดับความเข้มแข็งของแต่ละปัจจัย นำไปสู่การจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างตรงเป้าหมาย
- ผู้นำกลุ่ม หมายถึง บุคคลที่สามารถชักจูงหรือชี้นำบุคคลอื่นให้ปฏิบัติงาน มีความสามารถทำให้งานดำเนินไปอย่างก้าวหน้า อาจมาจากการคัดเลือก การยกย่องจากสมาชิกกลุ่ม เปรียบเสมือนแกนของกลุ่มที่มีหน้าที่สั่งการ วางแผน แนะนำ ชี้แนะหรือปฏิบัติ มีความสามารถนำพากลุ่มไปสู่วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้
- นวัตกรชุมชน หมายถึง บุคคลจากท้องถิ่นที่เข้ารับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ศึกษาและบ่มเพาะ มีทักษะการรับและปรับใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบท ถ่ายทอดความรู้และขยายผลสู่ผู้อื่นได้ มีทักษะประยุกต์ต่อยอดได้ รวมทั้งจัดการความรู้ไปแก้ไขปัญหาสำคัญในชุมชนได้อย่างยั่งยืน
- หน่วยงานเครือข่ายความร่วมมือ หมายถึง หน่วยงานในภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ที่มีบทบาทร่วมผลักดันและขับเคลื่อนงานในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ภาคเอกชน ฯลฯ
- นวัตกรรมพร้อมใช้ หมายถึง องค์ความรู้ที่ชุมชนมีอยู่แล้วหรือมาจากหน่วยงานอื่นสนับสนุนส่งเสริม และเทคโนโลยีพร้อมใช้ TRL 7 8 9 รวมถึงการนำเทคโนโลยีจาก สท./สวทช. ไปประยุกต์ใช้
- พื้นที่แห่งการเรียนรู้ หมายถึง มีกิจกรรมและกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีวิทยากรกระบวนการหรือวิทยากรประจำฐาน
สท. ได้จัดแบ่งระดับชุมชนตามความเข้มแข็งหรือศักยภาพของชุมชน ทำให้มองเห็นจุดแข็งจุดอ่อนที่ สท. จะต้องหนุนเสริมหรือพัฒนาผ่านกลไกการทำงานต่างๆ เพื่อยกระดับชุมชนให้สอดคล้องตามศักยภาพและบริบทของพื้นที่