“เทคโนโลยีช่วยทุ่นเวลาและให้ความรู้” คำตอบสั้นๆ จาก ฉัตรชนก ทองเรือง หรือ ลุงแดง วัย 59 ปี เจ้าของสวนมะยงชิด “ทองเรือง” เมื่อพูดถึง เทคโนโลยีการให้น้ำอัจฉริยะสำหรับพืชแปลงเปิด ที่เขาได้คลุกคลีมาเกือบ 2 ปี
“มะยงชิด” เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายกและเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัด ซึ่งสวนทองเรือง แห่งนี้เป็นแหล่งผลิตมะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้าที่คว้ารางวัลการประกวดมานับไม่ถ้วน ผลผลิตของสวนเฉลี่ยปีละ 2 ตัน ถูกจับจองล่วงหน้าและจำหน่ายที่หน้าสวนเท่านั้น ในราคากิโลกรัมละ 350-400 บาท
ด้วยความชอบรสชาติที่หวานและหอมกรอบของมะยงชิด ทำให้ ลุงแดง หันมาปลูกมะยงชิดอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2535 เรียนรู้ สังเกต จดบันทึกการปลูกและพัฒนาการปลูกมะยงชิดของตนเอง จนได้ผลผลิตที่ “รสชาติหวาน หอมกรอบ สีเหลืองส้ม” เป็นที่หมายปองของผู้นิยมบริโภคมะยงชิด
“ที่นี่ปลูกแบบยกโคก มะยงชิดชอบน้ำผ่านแล้วให้แห้ง ไม่ชอบแฉะ เราต้องรู้สรีระของต้นมะยงชิด ทำให้ต้นสมบูรณ์ และยังสัมพันธ์กับความชื้นในดิน อากาศ ต้นถึงจะออกดอก”
บนพื้นที่ของสวนขนาด 2 ไร่ที่มีต้นมะยงชิดกว่า 100 ต้น ถูกปกคลุมด้วยมอส สะท้อนถึงปริมาณความชื้นและการให้น้ำของสวนแห่งนี้ ซึ่งลุงแดงมองว่า ผลผลิตที่สมบูรณ์ของสวนส่วนหนึ่งมาจากการให้ความชื้นที่มาก และกลายเป็นโจทย์ร่วมของ ลุงแดง และเจ้าหน้าที่ สวทช. เมื่อครั้งมาประเมินพื้นที่เพื่อติดตั้งระบบการให้น้ำอัจฉริยะว่า ความต้องการน้ำและความชื้นสัมพันธ์ต่อการติดดอกออกผลของต้นมะยงชิดอย่างไร
“แต่ก่อนรดน้ำสายยางก็ดูจากหน้าดิน ถ้าน้ำหน้าดินไม่ค่อยซึมแสดงว่าน้ำในดินเยอะแล้ว ก็รู้ว่ารดแค่นี้ล่ะ ความชื้นได้แล้ว หรือความชื้นในอากาศของสวนผม ไม่มีใครเชื่อว่าเท่ากันทุกตำแหน่ง เขาบอกว่าเอาความรู้สึกมาวัด หรือช่วงติดดอก ไม่รู้เลยว่าดินต้องชื้นเท่าไหร่ ต้องมีความชื้นในอากาศเท่าไหร่ถึงออกดอก รู้แต่ว่าถ้าอุณหภูมิสัก 17-18 องศา ติดกันสามวัน แล้วอากาศอุ่นขึ้น มะยงชิดจะออกดอก”
เมื่อ “ความรู้สึก” ไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้และไม่สามารถเป็นตัวแทนของข้อมูล การเข้ามาของเทคโนโลยีการให้น้ำอัจฉริยะสำหรับพืชแปลงเปิด จึงช่วยคลายความคาใจให้ลุงแดง
“ผมไม่เป็นเลยกับเทคโนโลยีแบบนี้ ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็สอนแล้ว แต่เราเองยังไม่คล่อง ต้องทำความเข้าใจ เข้าไปดูค่าต่างๆ ในระบบอยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ไม่ยากแล้ว”
เทคโนโลยีการให้น้ำอัจฉริยะสำหรับพืชแปลงเปิด เป็นเทคโนโลยีตรวจวัดและควบคุมแบบไร้สายที่ติดตามสภาวะแวดล้อมของพืช พร้อมทั้งควบคุมการให้น้ำตามความต้องการพืชด้วยระบบอัตโนมัติ ตั้งเวลา และควบคุมตรง ประกอบด้วยเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ เซนเซอร์วัดความเข้มแสง และเซนเซอร์วัดความชื้นดิน
“จากเดิมที่เคยใช้สายยางรดน้ำ 1 ชั่วโมง ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ ส่วนการสั่งงานตอนแรกตั้งเป็นแบบอัตโนมัติ ทดลองตั้งการให้น้ำที่ความชื้นในดิน 60% เมื่อค่าความชื้นลดลง ระบบทำงานอัตโนมัติให้น้ำเพื่อเพิ่มความชื้นกลับมาที่ 60% ซึ่งแบบนี้จะทำให้รากเน่าได้ เพราะมะยงชิดไม่ชอบน้ำขัง ชอบน้ำผ่าน ผมก็เปลี่ยนมาสั่งแบบกำหนดเอง โดยดูที่การดูดซึมของน้ำที่หน้าดินคู่กันไป”
หลังจากเรียนรู้การใช้งานระบบควบคู่กับการเปรียบเทียบข้อมูลแปลงที่จดบันทึกไว้ ทำให้ ลุงแดง รู้ค่าตัวเลขที่แทนความรู้สึกได้ว่า ค่าความชื้นในดินของต้นมะยงชิดตั้งแต่ฝนทิ้งช่วง-ก่อนเก็บเกี่ยว ต้องมีความชื้นดินอย่างน้อย 80%
“ผมจดบันทึกข้อมูลทำสวนมะยงชิดทุกปี ใส่ปุ๋ยเมื่อไหร่ รดน้ำวันไหน พอใช้ระบบให้น้ำของ สวทช. ผมก็จดตัวเลขที่ได้จากระบบ ก่อนออกดอก วันที่ออกดอก อุณหภูมิ ค่าแสงเป็นอย่างไร ค่าความชื้นในอากาศ ความชื้นในดินเป็นเท่าไหร่ การใช้ระบบฯ ทำให้รู้ว่ามะยงชิดจะออกดอกต้องใช้ค่าต่างๆ เท่าไหร่ ซึ่งใช้เป็นข้อมูลปีต่อไปได้”
ประสบการณ์เกือบ 30 ปีกับการปลูกมะยงชิด คำแนะนำที่ให้กับสวนต่างๆ ว่าความชื้นในสวนต้องเท่านี้ตามความรู้สึก มาวันนี้ไม่เพียง ลุงแดง มีค่าตัวเลขที่สามารถบอกแทนค่าความรู้สึกได้แล้ว เขายังเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีกับการทำสวนมะยงชิด
“การรู้ค่าตัวเลขทำให้เรามีความรู้กับการทำสวนเพิ่มขึ้น เป็นข้อมูลให้ที่อื่นได้ แล้วยังช่วยทุ่นเวลาก็คือ เราสั่งรดน้ำได้ ไม่ต้องลากสายยางรด ลดปริมาณการใช้น้ำเพราะมีตัวเลขที่เรารู้ความชื้นที่เหมาะ และประหยัดค่าไฟฟ้า แทนที่รดด้วยสายยาง 1 ชั่วโมง เปลี่ยนมารดด้วยสปริงเกิลใช้เวลา 10 นาที ใช้ปั๊มวันละ 1 ชม. กับวันละ 10 นาที แตกต่างกันเยอะเลยนะ”
# # #
สวนทองเรือง ต.ดอนยอ อ.เมือง จ.นครนายก มีพื้นที่ปลูกมะยงชิด 2 ไร่ มีแรงงาน 2 คน ได้ผลผลิต 2 ตัน/ปี รายได้ไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท/ตัน จำหน่ายกิ่งพันธุ์มะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้า และให้คำแนะนำการปลูกมะยงชิดกับสวนต่างๆ
โทรศัพท์ 064 9146559 facebook: ฉัตรชนกสวนทองเรือง
(ข้อมูลสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564)