เมื่อวันที่ 4–8 พฤศจิกายน 2567 น.ส.วิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) พร้อมด้วยน.ส.อดิศัย เรืองจิระชูพร นักวิเคราะห์ นายนิคม กันยานะ นักวิชาการ และ ผศ.กฤษฎา บูรณารมย์ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมประชุมหารือแผนงานการเชื่อมโยงตลาดโคเนื้อในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายโคเนื้อระหว่างเกษตรกรเลี้ยงโคแม่พันธุ์ผลิตลูกกับเกษตรกรเลี้ยงโคขุนคุณภาพ ภายใต้การดำเนินงานโครงการ “การพัฒนายกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมปีที่ 2” นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อและโคขุนหารือแผนงานการผลิตโคเนื้อลูกผสม สายพันธุ์ชาโรเล่ แองกัส และวากิว ที่เข้าร่วมโครงการฯ ส่งขายให้กับ อัมรีฟาร์ม ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคขุนสุรินทร์โกเบครบวงจร ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย
สท.-ไบโอเทค-ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ติดตามแปลงเกษตรกรทุ่งกุลาฯ ทดสอบปลูกข้าว 6 สายพันธุ์ใหม่
เมื่อวันที่ 21-23 ตุลาคม 2567 นักวิชาการสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) ร่วมกับนักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพพืชและการจัดการแบบบูรณาการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวสายพันธุ์ใหม่และพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจสอบแปลงนาในพื้นที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม อำเภอชุมพลบุรี และอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “การถ่ายทอดเทคโนโลยีข้าวสายพันธุ์ใหม่และการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี เพื่อยกระดับการผลิตข้าวของเกษตรกรพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้” โดยมีแปลงเกษตรกร 5 ราย ร่วมทดสอบผลิตข้าวสายพันธุ์ใหม่ 6 สายพันธุ์ ได้แก่ หอมสยาม 2 ไรซ์เบอร์รี่ 2 แดงจรูญ นิลละมุน ธัญสิรินต้นเตี้ย และข้าวเหนียวดำ จากการลงพื้นที่ครั้งนี้พบว่า ข้าวสายพันธุ์ใหม่สามารถปรับตัวและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ของจังหวัดมหาสารคามและสุรินทร์ เกษตรกรยังสนใจทดสอบผลิตข้าวสายพันธุ์ใหม่ตามความสนใจ ได้แก่ หอมสยาม 2 จำนวน
สท. ร่วมกิจกรรม NAC 2024 พัฒนาพื้นที่ทุ่งกุลาด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG
สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) ร่วมกิจกรรมงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. หรือ NAC 2024 ภายใต้แนวคิด “สานพลัง สร้างงานวิจัย พลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วย BCG Implementation” สท. ได้นำเสนอการทำงาน การพัฒนาเศรษฐกิจด้วย BCG Model พื้นที่นำร่องทุ่งกุลาร้องไห้ สร้างเศรษฐกิจใหม่จากฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยว (พ.ศ.2567-2570) ผ่านนิทรรศการเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้ถ่ายทอดสู่ชุมชนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ รวมถึงการเสวนาในหัวข้อ “ทุ่งกุลาไปไสก็ม่วน …ของแทร่” และ “สืบสานภูมิปัญหา ต่อยอดลายอัตลักษณ์ผ้าไทย ยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโลยี”
สวทช. ผนึกหน่วยงานท้องถิ่นร้อยเอ็ด ประเมินความพร้อมชุมชนจัดพื้นที่ท่องเที่ยว “บ่อพันขัน”
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 น.ส.วิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ประชุมหารือ “การจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวบ่อพันขัน จังหวัดร้อยเอ็ด” ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชงคลอีสาน (มทร.อีสาน) สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เทศบาลตำบลจำปาขัน อำเภอสุวรรณภูมิ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสว่าง อำเภอโพนทราย องค์การบริหารส่วนตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนและประเมินความพร้อมการจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวบ่อพันขัน นำไปสู่การขับเคลื่อนแผนงานการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม การประชุมหารือครั้งนี้ ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน มทร.อีสาน ได้นำเสนอข้อมูลทรัพยากรของชุมชน วิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา พร้อมทั้งถ่ายทอดประสบการณ์งานวิจัยการพัฒนาชุมชนบ่อพันขัน นอกจากนี้นายสายฝน แก้วสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านหญ้าหน่อง พระปลัดขาว คุตฺตธมโม เจ้าอาวาสวัดเกาะบ่อพันขันรัตนโสภณ และชมรมท่องเที่ยวบ่อเกลือพันขัณฑ์
‘พลังวิทย์’ เสริมศักยภาพเกษตรไทย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ถั่วเขียว KUML พืชหลังนาที่มากกว่าบำรุงดิน (ทุ่งกุลา)
ท่ามกลางแสงแดดยามเที่ยงที่ร้อนแรง มัสสา โยริบุตร ในวัย 65 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์นำทางลัดเลาะไปยังผืนนาที่แปรเปลี่ยนเป็นทุ่งปอเทืองและถั่วเขียวบนพื้นที่ 6 ไร่ เป็นพืชหลังนาที่ มัสสา เลือกปลูกเพื่อบำรุงดินก่อนปลูกข้าวในฤดูกาลใหม่ “สมัยรุ่นพ่อแม่ ไม่มีปลูกพืชหลังนาหรอก ทำนาเสร็จ ก็ปล่อยแปลงว่างไว้ ไม่ทำอะไร” มัสสา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านโนนสวรรค์ ต.ทุ่งหลวง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ย้อนภาพแปลงนาในวัยเยาว์ จวบจนถึงวัยที่เธอเดินตามรอยเส้นทางอาชีพของพ่อแม่ มัสสา มีโอกาสเข้าถึงการอบรมต่างๆ จากหน่วยงานราชการ ทำให้เธอได้รู้จักพืชหลังนา “ได้อบรมเป็นหมอดินอาสา ทำให้รู้จักพืชหลังนาอย่างปอเทือง ถั่วเขียวว่าเป็นปุ๋ยพืชสด มีไนโตรเจนสูง ไถกลบแล้วช่วยให้หน้าดินนุ่ม ร่วนซุย เมื่อปลูกข้าวรอบใหม่ก็ใช้ปุ๋ยน้อยลง” มัสสา มีพื้นที่นาทั้งหมด 53 ไร่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิส่งจำหน่ายให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวร้อยเอ็ด
สวทช.-โอสถสภา-หน่วยงานพันธมิตร ชู ‘สมุนไพร-ถั่วเขียว’ ยกระดับคุณภาพชีวิตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
เมื่อวันที่ 7-8 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ และตำบลเมืองหลวง ตำบลผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ : ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ชาติ (สวทช.) นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) พร้อมด้วยนักวิจัย สวทช. ประกอบด้วย ดร.ยี่โถ ทัพภะทัต ทีมวิจัยนวัตกรรมโรงงานผลิตพืชสมุนไพร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ดร.ประเดิม วณิชชนานันท์ นักวิจัยไบโอเทค ดร.วีรกัญญา มณีประกรณ์ นักวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
สท.-ม.เกษตรศาสตร์-สนง.เกษตรฯ สุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามการผลิตถั่วเขียว KUML
เมื่อวันที่ 17–22 กุมภาพันธ์ 2567 นักวิชาการสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ร่วมกับ ผศ.ดร.กนกวรรณ เที่ยงธรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามและให้คำแนะนำการปลูกถั่วเขียว KUML ของเกษตรกรในอำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูมและอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ภายใต้โครงการ “การขยายผลเทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียวคุณภาพสายพันธุ์ KUML ด้วยกลไกตลาดนำการผลิต” ซึ่งเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับการอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีการผลิตพืชหลังนาแบบครบวงจรถั่วเขียวสายพันธุ์ KUML พร้อมทั้งได้รับเมล็ดพันธุ์ KUML#4 สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2566/2567 เกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ที่ได้รับเมล็ดพันธุ์ KUML#4 ประกอบด้วย เกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ กลุ่มแก้จนชุมชนยะวึก ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์หอมมะลิ 105 ต.ชุมพลบุรี
สท. ผนึกหน่วยงานเครือข่าย เดินหน้ายกระดับผลิตโคเนื้อในพื้นที่ทุ่งกุลาฯ ตั้งเป้าผสมเทียมโคคุณภาพ 400 ตัว
สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ร่วมกับศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด และปศุสัตว์จังหวัดยโสธร ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อใน 5 จังหวัดพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ สุรินทร์ ยโสธร มหาสารคาม ศรีสะเกษ และร้อยเอ็ด ด้วย 3 กลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีด้านการพัฒนาพันธุ์และการดูแลโคเนื้อ กลุ่มเทคโนโลยีด้านอาหารโคเนื้อ และกลุ่มเทคโนโลยีด้านมาตรฐานฟาร์มโคเนื้อและการเพิ่มมูลค่าโคเนื้อ หลังจากเมื่อกลางเดือนมกราคมได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีปฏิบัติการตามโปรแกรมการเหนี่ยวนำให้เกิดการตกไข่และผสมเทียมโคเนื้อให้แม่พันธุ์โคเนื้อจำนวน 100 ตัวแรก ใน 5 จังหวัดพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ นักวิชาการ สท. พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานเครือข่ายได้ลงพื้นที่อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อถอด