สำหรับการดำเนินงานทางการเกษตรของเกษตรกรในปัจจุบันสามารถควบคุมตัวแปรบางประการที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปลูก การให้น้ำ การให้ปุ๋ยหรือแม้แต่เรื่องการป้องกันแมลงแต่ข้อจำกัดของเกษตรกรคือวิธีการควบคุมสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชว่าควรเป็นอย่างไรทำอย่างไรพืชจึงมีการเจริญเติบโตในสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตตลอดช่วงอายุตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นเพาะจนกระทั้งเก็บเกี่ยวและด้วยเหตุนี้การนำเทคโนโลยีการทำเกษตรอัจฉริยะแม่นยำสูงซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเซนเซอร์เข้ามาช่วยในกระบวนการเพาะปลูกถือเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยให้เกษตรสามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมในการปลูกตั้งแต่ต้นจนกระทั้งจบ ส่งผลให้สามารถควบคุมคุณภาพและประเมินปริมาณผลผลิตรวมถึงจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าของผลิตผลได้ และอีกประการหนึ่งคือการช่วยเกษตรกรนำองค์ความรู้ที่เกิดจากทักษะที่ไม่สามารถถ่ายทอดให้เข้าใจได้เนื่องจากการทำเกษตรกรรมแบบดังเดิม รูปแบบการเรียนรู้และถ่ายทอดทักษะในด้านการเกษตรเกิดจากการลองผิดลองถูกของตัวเกษตรกรเอง หรือจากองค์ความรู้ที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นทักษะเฉพาะบุคคลหรือเฉพาะกลุ่มคนทำให้กระบวนการในการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นไม่สามารถถ่ายทอดได้โดยง่ายแต่ด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเพาะปลูกและเก็บรวบรวมข้อมูลจึงทำให้องค์ความรู้เหล่านั้นสามารถอธิบายและถ่ายทอดสู่เกษตรกรโดยทั่วไปได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นการพัฒนาเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีจึงเป็นอนาคตของเกษตรกรไทยเพื่อให้เกษตรกรไทยไปยังเป้าหมายประเทศไทย 4.0 พัฒนาและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และ ยังยืน
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.nectec.or.th/ace2018/ss4-smartfarm/index.html