วันที่ 28 มีนาคม 2561 ดร.สุวัสสา บำรุงทรัพย์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการนาโนโมเลกุลเป้าหมาย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. เข้ารับรางวัลรองชนะเลิศ DMSc Award ประเภทงานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ จาก ศ.คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 26 ประจำปี 2561 ณ อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี จัดโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ มูลนิธิกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ในโอกาสนี้ ดร.อุดม อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยนาโนเทคโนโลยีเพื่อชีวิตและสุขภาพ พร้อมด้วย ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง หัวหน้าห้องปฏิบัติการนาโนโมเลกุลเป้าหมาย ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.สุวัสสา บำรุงทรัพย์ ในการเข้ารับรางวัลรองชนะเลิศ DMSc Award ประเภทงานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรื่อง การพัฒนาอนุภาคซิลิกานาโนฟลูออเรสเซนต์ติดฉลากแอนติบอดีแบบควบคุมทิศทางสำหรับการตรวจจับมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 26 (Medical Sciences Innovation for healthy Thailand; Thailand 4.0 : นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อเมืองไทยแข็งแรง ประเทศไทย 4.0
ผลงานวิจัย เรื่อง การพัฒนาอนุภาคซิลิกานาโนฟลูออเรสเซนต์ติดฉลาก แอนติบอดีแบบควบคุมทิศทางสำหรับการตรวจจับมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นการพัฒนาอนุภาคซิลิกานาโนบรรจุสารฟลูออเรสเซนส์ชนิด Cy5 ติดฉลากด้วยแอนติบอดีที่จับจำเพาะกับ epithelial cell adhesion molecule (EpCAM) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ และเซลล์มะเร็งชนิดอื่นๆ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร, ตับอ่อน และช่องปาก โดยเบื้องต้นได้ทำการเคลือบพื้นผิวของอนุภาคที่สังเคราะห์ขึ้นด้วยโปรตีนจี ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมทิศทางและการวางตัวของแอนติบอดีบนผิวของอนุภาค เนื่องจากโปรตีนจีสามารถจับจำเพาะกับส่วนคงที่ (Fc) ของแอนติบอดี ทำให้บริเวณที่ใช้จับกับแอนติเจน (antigen binding site) หันออกจากอนุภาคและจับกับเป้าหมายคือ EpCAM ที่อยู่บนผิวชองเซลล์มะเร็งได้ดี
โดยงานวิจัยนี้ได้แสดงการใช้อนุภาคดังกล่าวตรวจวัดเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิด HT-29 ด้วยวิธีโฟลว์ไซโตเมทรีและการถ่ายภาพฟลูออเรสเซนส์ ซึ่งผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าอนุภาคที่ติดฉลากด้วยแอนติบอดีแบบควบคุมทิศทางโดยโปรตีนจี สามารถจับกับเซลล์มะเร็งเป้าหมายได้ดีกว่าอนุภาคที่ติดฉลากแอนติบอดีด้วยวิธี EDC coupling ซึ่งเป็นวิธีพื้นฐานและให้สัญญาณฟลูออเรสเซนส์ที่มากกว่าถึง 12 เท่า นอกจากนี้ยังพิสูจน์ว่าสามารถใช้อนุภาคที่ติดแอนติบอดีแบบควบคุมทิศทางสำหรับการตรวจมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพฟลูออเรสเซนส์ โดยพบว่ามีการสะสมของอนุภาคซึ่งแสดงโดยสัญญาณฟลูออเรสเซนส์ที่สูงบริเวณก้อนมะเร็งเมื่อเทียบกับอวัยวะอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำผลงานวิจัยนี้ไปพัฒนาต่อยอดเป็นน้ำยาสำหรับการตรวจวัดและติดตามมะเร็งที่มีความไวและความแม่นยำสูง หรือสามารถนำไปใช้ร่วมกับการรักษาโรคมะเร็งโดยการผ่าตัดได้
สำหรับในปีนี้ผู้ที่ได้รับรางวัล DMSc Award ประเภทงานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ มี 2 รางวัล ได้แก่รางวัลชนะเลิศ จากผลงานวิจัย สูตรมะนาวผงยูโรไลม์ลดระดับอัลบูมินในปัสสาวะที่เป็นตัวบ่งชี้การเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคนิ่วไต โดย ศาสตราจารย์ปิยะรัตน์ โตสุโขวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รางวัลรองชนะเลิศ จากผลงานวิจัย การพัฒนาอนุภาคซิลิกานาโนฟลูออเรสเซนต์ติดฉลากแอนติบอดีแบบควบคุมทิศทางสำหรับการตรวจจับมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดย ดร.สุวัสสา บำรุงทรัพย์ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ