คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย
พ.ศ. 2545-2549 รวมทั้งข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ตามที่รอง
นายกรัฐมนตรี (นายกร ทัพพะรังสี) รองประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติเสนอ โดย
ให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม และรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงานจัดทำ และ/หรือปรับแผนแม่บทของหน่วยงานตน
ให้สอดคล้องกับแผนแม่บท ฯ ระดับประเทศ ทั้งในด้านสารัตถะและกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน
และให้สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ ฯ พิจารณาร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผน
ปฏิบัติของทุกส่วนราชการและหน่วยงาน รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สอดคล้องตรงตามแผน
แม่บท ฯ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 60 วัน และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง
ซึ่งมีแผนหรือกำลังเตรียมการจัดทำบัตรประจำตัวและบัตร Smart Card ให้แก่ประชาชน จัดส่งข้อมูล/แผน
งานในเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์
กลางรวบรวม และบูรณาการให้มีความสอดคล้องในทางปฏิบัติ มาตรฐานข้อมูล และมาตรฐานกลางของ
ระบบการอ่านที่สามารถใช้บัตรเดียวเก็บข้อมูลร่วมกันได้หลายหน่วยงาน กับให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ
เป็นหน่วยงานหลักดำเนินงานเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการเก็บข้อมูลสำรวจที่ลงไปถึงท้องถิ่น สำหรับการ
จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสน
เทศและการสื่อสาร และกรมสำรวจและทำแผนที่พลเรือน ขึ้นในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร มอบให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อ
สามารถเสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นพิจารณาได้อย่างรวดเร็วต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมี
ความเห็นเพิ่มเติมว่าร่างแผนแม่บทดังกล่าวควรให้ความสำคัญต่อการจัดการศึกษาซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ
เทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง ตามที่ปรากฏในยุทธศาสตร์ โดยระบุไว้ในพันธกิจให้ชัดเจน และให้แก้ไข
ชื่อของกระทรวงศึกษาธิการให้ถูกต้องตรงตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับใหม่
ด้วย นอกจากนี้ การบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ควรมีกฎหมายเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ให้น้อยที่สุด เพื่อให้มีความคล่องตัวและเป็นการเปิดกว้างทางเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีด้านนี้
มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว