สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (สท.) และฝ่ายบริหารวิจัยเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ สวทช. ลงพื้นที่ร่วมกับภาคเอกชน กระชับความร่วมมือกับ 5 ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ทุ่งกุลาฯ และ 3 มหาวิทยาลัยในพื้นที่ ขับเคลื่อน “โปรแกรมการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้” กำหนดโจทย์มุ่งเป้าและวางแผนดำเนินงานร่วมกัน ให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตั้งเป้ายกระดับคนจนเป้าหมายในมิติเศรษฐกิจพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ มีรายได้ก้าวพ้นเส้นความยากจน ยกระดับรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. ได้ดำเนินงานในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้มาตั้งแต่ปี 2562 โดยร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานในพื้นที่นำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปพัฒนาทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม ตลอดจนพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ นวัตกรชุมชน เชื่อมโยงการตลาดกับภาคเอกชน รวมถึงยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ สวทช. โดย สท. จึงได้รับมอบหมายจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้ดำเนินงานขับเคลื่อน “โปรแกรมการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้” ระยะเวลาต่อเนื่อง 3 ปี ซึ่งพื้นที่ทุ่งกลาร้องไห้เป็นที่ราบลุ่มผืนใหญ่มีพื้นที่กว่า 3.7 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 13 อำเภอ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร แต่ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นแอ่งกระทะ มีชั้นผิวดินเป็นดินร่วนทราย ชั้นล่างเป็นหินเกลือ ดินของทุ่งกุลาจึงไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ บวกกับระบบชลประทานที่ไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก เกษตรกรต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก
“แม้ว่าพื้นที่ทุ่งกุลาฯ จะเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่จากสภาพพื้นที่ที่แห้งแล้งส่งผลต่อการทำเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ สท. จึงได้ลงพื้นที่เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 แห่ง หน่วยงานในจังหวัดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บริหารมหาวิทยาลัยในพื้นที่ 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับ สท. ในพื้นที่ทุ่งกุลาฯ ร่วมหารือด้วย เพื่อสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกลาฯ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจากการหารือร่วมกันนำไปสู่การกำหนดโจทย์มุ่งเป้า (Quick win) กลุ่มเป้าหมายนำร่อง และการแต่งตั้งคณะทำงานในพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อวางแผนและเดินหน้าทำงานร่วมกัน มุ่งให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปปรับประยุกต์ใช้และยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยโมเดล BCG ที่มุ่งให้ประชาชนอยู่ดี กินดี มีรายได้พ้นความยากจน การดำเนินงานภายใต้โปรแกรมฯ นี้คาดหวังให้กลุ่มคนจนเป้าหมายในมิติเศรษฐกิจมีรายได้ก้าวพ้นเส้นความยากจนที่ 38,000 บาทต่อคนต่อปี และกลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10”
จากการหารือดังกล่าวในเบื้องต้นแต่ละจังหวัดได้กำหนดประเด็นนำร่องสำหรับดำเนินการตามบริบทปัญหาของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ ข้าว พืชหลังนา ผักอินทรีย์ โค สิ่งทอ และการบริหารจัดการน้ำ โดยคณะทำงานแต่ละจังหวัดจะร่วมกันกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการทำงานต่อไป
ที่มาข้อมูล : https://www.nstda.or.th/agritec/tungkula-program-nstda/