สวทช. จัดสัมมนา “ถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ Fabrication Lab โดยมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง”

     สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยฝ่ายวิชาการ หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้ จัดสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “ถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ Fabrication Lab โดยมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง” ในวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 – 12.30 น. ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom 

โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ และถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ Fabrication Lab เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานต่อในอนาคตเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และงานสัมมนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สายงานพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดงาน


การสัมมนาบรรยายการถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ Fabrication Lab ในหัวข้อ

“แนวทางการจัดการหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างมีประสิทริภาพ และปัญหาและการแก้ปัญหาให้กับสถานศึกษาในโครงการ” โดย

  • ผศ.ดร.วิมลศิริ ปรีดาสวัสดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • ดร.ชินวุธ พิพัฒน์ภานุกูล มหาวิทยาลัยบูรพา
  • ผศ.ดร.ดุจดาว บูรณะพาณิชย์กิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • ผศ.ดร.จุฬาลักษณ์ วัฒนานนท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

           
           

“แนวทางในการพัฒนาทักษะและความสามารถของครูผู้สอน และแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาในกลุ่มที่ขาดความพร้อม” โดย

  • รศ.ธีรวัฒน์ ประกอบผล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  • ผศ.ดร.วสิศ ลิ้มประเสริฐ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ดร.อานันท์ สีห์พิทักษ์กียรติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • ดร.ศุภวัฒน์ ชูวารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

 
 

📝 10 ข้อคิดเห็นดีๆ จากมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง ในงานสัมมนา “ถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ Fabrication Lab เพื่อการดำเนินงานต่อในอนาคตให้เกิดความยั่งยืน

1. ให้ตามหาครูที่มี Passion มีใจรักงานด้านนี้จริงๆ พบว่า ในแต่โรงเรียนแม้จะมีครูแบบนี้แค่หนึ่งคน เขาจะมีพลังจากข้างในจริงๆ เป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญในโรงเรียน ฝ่าฟันอุปสรรค ผลักดันสิ่งต่างๆ ไม่ย่อท้อ และพัฒนางานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม หลักสูตร การพัฒนาห้อง FabLab ให้มีชีวิต และต่อยอดจนได้ผลงานของนักเรียนรับรางวัลหรือมีผลงานเชิงประจักษ์

2. ควรนำความคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาใช้ในการสอนโครงงานและสิ่งประดิษฐ์ในสถานศึกษา เพื่อพัฒนานักเรียนให้เข้าใจได้ลึกซึ้ง และสร้างชิ้นงานที่ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้หรือสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การปิดช่องว่างเพื่อให้เกิดการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาให้เข้มแข็ง มีความรู้ความเข้าใจและสนับสนุนโครงการอย่างจริงจัง เพราะผู้บริหารสถานศึกษา คือ ผู้อยู่ตรงกลางระหว่างภาคส่วนนโยบายระดับกระทรวงและโครงการ กับกลุ่มระดับปฏิบัติการ เช่น ครูอาจารย์ วิศวกรโครงการ

4. FabLab จะเป็นผู้ช่วยครูให้จัดการเรียนการสอนที่รับผิดชอบได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่เป็นภาระเพิ่ม โดยครูสามารถจัดการสอนตามหลักสูตรที่รับผิดชอบ โดยครูต้องวิเคราะห์ตัวชี้วัดว่า กิจกรรม FabLab จะอยู่ในส่วนไหน จะช่วยครูได้อย่างไร

5. การเชื่อมโยงกับชุมชนและปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตและท้องถิ่นจริงๆ ทำให้สร้างสรรค์โครงงานที่น่าสนใจและมีคุณค่า ดังนั้น ควรส่งเสริมเด็กๆ ได้ออกไปทำความเข้าใจปัญหาและชุมชนมากกว่าอยู่แค่ในโรงเรียน

6. ควรส่งเสริมและสร้างพื้นที่ให้นักเรียนได้ประกวดแข่งขัน เพื่อกระตุ้นส่งเสริมการพัฒนาชิ้นงาน และให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของเด็กที่เพิ่มขึ้นจากการทำโครงงานมากกว่าวัดผลจากรางวัล

7. หลักสูตรควรมีการปรับปรุงให้ทันสมัยทุกปี สถานศึกษานำ FabLab ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน วิชาออกแบบและเทคโนโลยี โครงงานวิทยาศาสตร์ สะเต็มศึกษา แล้ว ยังสามารถนำ FabLab ในเป็นผู้ช่วยในการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ฝังอยู่ในทุกวิชาของการเรียนการสอนได้ เช่น ฟิสิกส์ ชีววิทยา เคมี การงานพื้นฐานอาชีพ

8. การพัฒนาและส่งเสริมสถานศึกษาแต่ละแห่ง ควรคำนึงถึงบริบทเฉพาะแต่ละแห่งด้วย เช่น โรงเรียนขนาดเล็กอยู่ห่างไกล โรงเรียนขนาดใหญ่ วิทยาลัยเทคนิค ความสนใจและความพร้อมของเด็กแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

9. การให้ความรู้ผ่านระบบออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ทำได้ดี ประหยัด และลดเวลาการเดินทาง ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยและหลายหน่วยงานจากทั่วโลกพัฒนาสื่อการให้ความรู้ด้านนี้ได้อย่างน่าสนใจ ตั้งแต่การใช้เครื่องมือ คู่มือการผลิตชิ้นงาน ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ

10. การนำ FabLab พัฒนาเด็กเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมด้านอาชีพในอนาคต เช่น Data Science, Fourth Industrial Revolution

***************************************************

Post Views: 371