ประกาศความเป็นส่วนตัว (privacy notice)
ผู้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการประจำปี 2566 สวทช. กิจกรรมสัมมนา Open House และ R&D Pitching
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) (“สำนักงาน”) กำหนดจัดงานประชุมวิชาการประจำปี 2566 สวทช. ในกิจกรรมสัมมนา Open House และ R&D Pitching เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และผลงานวิจัยพัฒนาที่ สวทช. สนับสนุนและดำเนินการ โดยกำหนดให้มีการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงานสัมมนา Open House และ R&D Pitching ซึ่งมีความจำเป็นต้องทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สำนักงานให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักงานได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำนักงานจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (privacy notice) ของผู้เข้าร่วมงานสัมมนา Open House และ R&D Pitching (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิต่าง ๆ ของท่านตามกฎหมาย
1. คำนิยาม
“สำนักงาน” หมายถึง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผล
ประเภทของข้อมูล | ข้อมูลที่สำนักงานเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย |
ข้อมูลส่วนตัว | คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ลายมือชื่อ |
ข้อมูลเพื่อการติดต่อ | จังหวัดและประเทศที่อยู่อาศัยปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่อีเมล Line ID |
ข้อมูลการศึกษา และการทำงาน | ระดับการศึกษา อาชีพและสาขาอาชีพ ตำแหน่ง หน่วยงานและประเภทหน่วยงาน |
ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ | ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ คุกกี้ (Cookies ID) รหัสประจำอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ล็อก (Log) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log – in) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ค่าเขตเวลา (Time zone) และสถานที่ตั้ง (Location Data) ประเภทและเวอร์ชันของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม |
ข้อมูลอื่น ๆ | บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับสำนักงาน รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน |
3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
(1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่สำนักงานโดยตรง ผ่านระบบลงทะเบียนฯ
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานได้รับจากแหล่งอื่น โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่สำนักงาน เช่น ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นแก่สำนักงาน อาจเป็นผลให้สำนักงานไม่สามารถให้บริการหรือดำเนินการตามวัตถุประสงค์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่าน โดยวัตถุประสงค์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศฉบับนี้
(1) เพื่อลงทะเบียน พิสูจน์ และยืนยันตัวตนของท่านในการเข้าร่วมงาน
(2) เพื่อบริหารจัดการและอํานวยความสะดวกให้กับท่าน เช่น การตอบคำถาม การติดต่อประสานงาน การแจ้งรายละเอียด และการจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับงาน
(3) เพื่อวิเคราะห์ วิจัย และ/หรือ จัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อใช้ในการพัฒนา และ/หรือ ปรับปรุงคุณภาพและกระบวนการการจัดงานและบริการภายในสำนักงาน เช่น การจัดทำรายงานสรุปผลการจัดงาน
(4) เพื่อทำรายงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของสำนักงาน โดยจัดให้มีการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวบรรยากาศของงานและผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งอาจปรากฏเสียง และ/หรือ ภาพของท่านที่เข้าร่วมงาน หากท่านไม่ประสงค์จะถูกบันทึกเสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานได้ สำหรับท่านที่ไม่ได้แจ้ง หากท่านพบว่ามีเสียง ภาพนิ่ง และ/หรือ ภาพเคลื่อนไหวของท่าน ท่านสามารถขอให้สำนักงานระงับไม่ให้ใช้ และ/หรือเผยแพร่ในส่วนของท่านได้
(5) เพื่อดำเนินการทางการตลาด และนำส่งข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับบริการของสำนักงาน เช่น การนำส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม การนำส่งข้อเสนอบริการ งานอีเว้นท์ หรือการประชุมที่สำนักงานจัดขึ้น
(6) เพื่อดำเนินงานอื่น ๆ ของสำนักงาน เช่น การบริหารจัดการ การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบภายใน การรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การจัดทำฐานข้อมูลผู้ใช้บริการ หรือ การเก็บบันทึกข้อมูลลงระบบหรือฐานข้อมูล การสำรวจและประเมินความพึงพอใจภายหลังใช้บริการ การดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการจัดการเหตุการณ์กระทำผิดต่อกฎหมาย หรือเหตุการณ์ต้องสงสัย การดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร และการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและภัยคุกคามทางไซเบอร์
(7) เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และ/หรือ การปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามคำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลสำนักงาน เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่สำนักงานจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่ใช้บังคับอยู่แล้วในขณะนี้ ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมหรือที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต
(8) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(9) เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย
(10) เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของสำนักงาน หรือการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่สำนักงาน
ทั้งนี้ หากสำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านสำหรับการเข้าทำหรือการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับสำนักงาน และ/หรือ การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเหล่านั้นแก่สำนักงานเมื่อมีการร้องขอ หรือกรณีที่ท่านเลือกที่จะลบบัญชีผู้ใช้งานของท่านออกจากบริการของสำนักงาน สำนักงานอาจจะไม่สามารถพิจารณาอนุมัติหรือส่งมอบบริการบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านได้ ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่นภายใน และภายนอกสำนักงาน ภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย ดังนี้
(1) ภายในสำนักงาน
สำนักงานเปิดเผยหรือนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลหรือหน่วยงานภายในสำนักงาน เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของสำนักงาน จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
(2) ภายนอกสำนักงาน
สำนักงานเปิดเผยหรือนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้สนับสนุนการจัดงาน เพื่อรายงานสรุปผลการจัดงาน และเปิดเผยภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของงานซึ่งอาจปรากฏเสียง และ/หรือ ภาพของท่านที่เข้าร่วมงาน ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของสำนักงาน เพื่อทำรายงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงาน หากท่านไม่ประสงค์จะถูกบันทึกเสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานได้ สำหรับท่านที่ไม่ได้แจ้ง หากท่านพบว่ามีเสียง ภาพนิ่ง และ/หรือ ภาพเคลื่อนไหวของท่าน ท่านสามารถขอให้สำนักงานระงับไม่ให้ใช้ และ/หรือเผยแพร่ในส่วนของท่านได้
6. การใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
สำนักงานอาจเก็บรวบรวมและใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เมื่อท่านมีการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของสำนักงาน การทำธุรกรรม การใช้บริการของสำนักงานผ่านช่องทางดิจิทัลและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเก็บรวบรวมคุกกี้ และ/หรือ การใช้งานเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน จะช่วยให้สำนักงานสามารถจดจำการใช้งานและความชื่นชอบของท่าน รวมถึงการวิเคราะห์ความสนใจของท่านเพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของสำนักงาน ให้ตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของสำนักงาน
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันสิ้นสุดของงานประชุมวิชาการประจำปี 2566 สวทช. ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สำนักงานจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำนักงานขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน การเข้าถึง การใช้
การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในสำนักงานเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล และสำนักงานจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม
9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย
(1) สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้สำนักงานประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับสำนักงาน เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการขอรับบริการ อาจส่งผลให้สำนักงานไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้บริการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่านในการรับทราบเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
(2) สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน และขอให้สำนักงานทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้สำนักงานเปิดเผยว่าสำนักงานได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
(3) สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่สำนักงานได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้สำนักงานส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สำนักงานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของสำนักงานได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับสำนักงาน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการของสำนักงาน หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
(4) สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน สำนักงานจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่สำนักงานสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
(5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าสำนักงานหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
(6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่สำนักงานอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่สำนักงานหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้สำนักงานระงับการใช้แทน
(7) สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และ
ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10. การติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามหนังสือฉบับนี้
ท่านสามารถติดต่อ nac2023@nstda.or.th หรือตามที่อยู่ด้านล่างนี้
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
111 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน
ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
ท่านสามารถติดต่อสำนักงาน และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน ตามที่อยู่อีเมล dpo@nstda.or.th หรือตามที่อยู่ด้านล่างนี้
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
111 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน
ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
แก้ไขครั้งล่าสุด 30 มกราคม พ.ศ. 2566