ประกาศความเป็นส่วนตัว (privacy notice)

สำหรับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของสวทช.

 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำหนดจัดงานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของ สวทช. เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และผลงานวิจัยพัฒนาที่ สวทช. สนับสนุนและดำเนินการ โดยประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเสวนา การสัมมนา การบรรยาย กิจกรรมเยาวชน ตลอดจนกิจกรรมเยี่ยมชม ซึ่งมีความจำเป็นที่ สวทช. ต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ส่งต่อ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในงานดังกล่าว

 สวทช. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ สวทช. ได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สวทช. จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (privacy notice) สำหรับผู้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของ สวทช. (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิต่าง ๆ ของท่านตามกฎหมาย

1. คำนิยาม

 “สำนักงาน” หมายถึง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

 “กิจกรรม” หมายถึง งานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของ สวทช. และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน เช่น กิจกรรมการเสวนา การสัมมนา การบรรยาย กิจกรรมเยาวชน ตลอดจนกิจกรรมเยี่ยมชม ซึ่งจัดขึ้นในงานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของ สวทช.

 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

 “ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ทั้งนี้ ข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากไม่สามารถระบุบุคคลเจ้าของข้อมูลได้ แต่หากรวมหรือเชื่อมโยงข้อมูลส่วนนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เพื่อให้สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ถือว่าข้อมูลอื่น ๆ นี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่อยู่ภายใต้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้

 “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม

 “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ ข้อมูลส่วนบุคคล

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานจะใช้ประมวลผล
ประเภทของข้อมูลตัวอย่างข้อมูล
ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำหรับติดต่อคำนำหน้านาม ชื่อนามสกุล การศึกษา อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail)
ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมภาพนิ่ง เสียง ภาพเคลื่อนไหว เสียงและภาพเคลื่อนไหว
ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ คุกกี้ (Cookies ID) รหัสประจำอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ล็อก (Log) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log – in) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ค่าเขตเวลา (Time zone) และสถานที่ตั้ง (Location Data) ประเภทและเวอร์ชันของปลั๊กอินเบราว์เซอร์

 อนึ่ง สำนักงานอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน คือ ข้อมูลความพิการและข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมและปลอดภัยแก่ท่านโดยสำนักงานจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่สำนักงานโดยตรงในขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านระบบลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม (ระบบ Smart Event) ทั้งการลงทะเบียนล่วงหน้าและการลงทะเบียนแบบ Walk-in ตลอดจนขั้นตอนการยื่นคำขอใช้สิทธิต่าง ๆ หรือข้อร้องเรียน (ถ้ามี)

2. การบันทึกและจัดทำสื่อมัลติมีเดียระหว่างการดำเนินกิจกรรม การถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์

3. หากท่านนำข้อมูลส่วนบุคคลมาแจ้งหรือนำส่งให้แก่สำนักงานโดยไม่มีอำนาจหน้าที่หรือไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย ท่านต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเอง โดยสำนักงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการควบคุมและรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เนื่องจากสำนักงานไม่ทราบเกี่ยวกับแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ท่านได้แจ้งหรือนำส่งให้ อย่างไรก็ตามข้อมูลของท่านจะได้รับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานของสำนักงาน

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอม

สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานความยินยอมในการประชาสัมพันธ์การจัดงานงานประชุมวิชาการประจำปี 2568 ของ สวทช. และกิจกรรมอื่น ๆ ของสำนักงาน ตลอดจนในการจัดทำรายงานภายหลังดำเนินกิจกรรมเสร็จสิ้นซึ่งสำนักงานอาจต้องเปิดเผย ส่งต่อ ข้อมูลของท่านต่อผู้สนับสนุน การจัดงาน (sponsor)

4.2 วัตถุประสงค์ที่อาศัยฐานทางกฎหมายอื่น นอกเหนือจากความยินยอม

 สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายซึ่งรวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อการดำเนินงานทางสถิติ ที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย โดยวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศฉบับนี้ มีดังนี้

  1. เพื่อพิสูจน์ ยืนยันตัวตน และลงทะเบียนในการเข้าร่วมงานและกิจกรรมของท่าน
  2. เพื่อจัดทำรายงานภายหลังดำเนินกิจกรรมเสร็จสิ้น
  3. เพื่อจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อใช้ในการพัฒนา และ/หรือ ปรับปรุงคุณภาพและกระบวนการการจัดงานและบริการภายในสำนักงาน
  4. เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม (participant) ให้สามารถเข้ารับชมหรือร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นได้จากหลายพื้นที่โดยพร้อมกัน หรือรับชมย้อนหลัง สำนักงานอาจบันทึกภาพและเสียงของท่านในรูปแบบต่าง ๆ เช่น วิดีทัศน์หรือการถ่ายทอดสด ในระหว่างการจัดกิจกรรม โดยสำนักงานจะจัดให้มีป้ายแจ้งให้ทราบบริเวณที่มีการบันทึก
  5. เพื่อดำเนินงานอื่น ๆ ของสำนักงาน เช่น การบริหารจัดการ การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบภายใน การรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การจัดทำฐานข้อมูล หรือ การเก็บบันทึกข้อมูลลงระบบหรือฐานข้อมูล การสำรวจและประเมินความพึงพอใจ การดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการจัดการเหตุการณ์กระทำผิดต่อกฎหมาย หรือเหตุการณ์ต้องสงสัย การดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร และการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและภัยคุกคามทางไซเบอร์
  6. เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามคำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลสำนักงาน เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่สำนักงานจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่ใช้บังคับอยู่แล้วในขณะนี้ ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมหรือที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต
  7. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  8. เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของสำนักงาน หรือการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่สำนักงาน

 ทั้งนี้ หากสำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านเพื่อเข้าทำหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับสำนักงาน และ/หรือ การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน เมื่อสำนักงานร้องขอ แต่ท่านปฏิเสธ ไม่แจ้งหรือนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเหล่านั้นแก่สำนักงาน สำนักงานอาจไม่สามารถพิจารณาอนุมัติหรือส่งมอบบริการบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านได้ ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน

 5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 สำนักงานอาจเปิดเผย ส่งต่อ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะที่เกี่ยวข้องและเท่าที่จำเป็น ให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยสำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกดังต่อไปนี้

  1. หน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ เป็นต้น
  2. ผู้สนับสนุนการจัดงาน (sponsor)
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

 สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันสิ้นสุดของงานประชุมวิชาการ ประจำปี 2568 ของ สวทช. ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สำนักงานจะดำเนินการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิตามกฎหมายหรือการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำนักงานขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

 สำนักงานจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในสำนักงานเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล และสำนักงานจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม

 8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 

 สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย

  1. สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้สำนักงานประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ อนึ่งการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการขอรับบริการ อาจส่งผลให้สำนักงานไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอ สัญญาหรือให้บริการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่านในการรับทราบเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
  2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน และขอให้สำนักงานทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้สำนักงานเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมิได้ให้ความยินยอมต่อสำนักงาน
  3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่สำนักงานได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้สำนักงานส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สำนักงานในการประมวลผล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลเพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของสำนักงานได้ตามความประสงค์ของท่านซึ่งเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการของสำนักงาน หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
  4. สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน สำนักงานจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่สำนักงานสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
  5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าสำนักงานหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิถอนความยินยอมและสำนักงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไป หรือเมื่อท่านใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว 
  6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราวในกรณีที่สำนักงานอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือตรวจสอบคำร้องคัดค้านการประมวลผล หรือกรณีอื่นใดที่สำนักงานหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้สำนักงานระงับการใช้แทน
  • สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
9. การติดต่อสอบถาม

 หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามหนังสือฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อ nac2025@nstda.or.th หรือตามที่อยู่ด้านล่างนี้ 

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
111 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน
ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120

ท่านสามารถติดต่อสำนักงาน และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน ตามที่อยู่อีเมล dpo@nstda.or.th หรือตามที่อยู่ด้านล่างนี้

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
111 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน
ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120

แก้ไขครั้งล่าสุด กุมภาพันธ์ 2568