27 มีนาคม 2568

รู้ใจ ไม่รู้ไต ร่วมชะลอภัยโรคไต ด้วยสิทธิประโยชน์ใหม่สู่สังคม

วิทยากร
  • ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย
  • ศ.ดร.ศิวพร มีจู สมิธ
  • นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น หรือผู้แทน
  • นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หรือ ผู้แทน
  • คุณธนพลธ์ ดอกแก้ว
  • ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือผู้แทน
  • ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง
  • ดร.หฤษฎ์ พิทักษ์จักรพิภพ
  • ดร.สุพักตร์ โยไธสง

สำหรับประเทศไทยสถานการณ์ของโรคไตเรื้อรังในประชากรไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับเป็นปัญหาสาธารณสุขและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) ในปี 2566 พบผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง 1,062,756 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 85,064 คน จำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ 3 จำนวน 464,420 ราย ระยะ 4 จำนวน 122,363 ราย และระยะที่ 5 ที่ต้องล้างไตมากถึง 70,474 ราย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อป้องกันหรือชะลอไม่ให้เกิดโรคไตวายระยะสุดท้าย ด้วยการดูแลรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือน้อยกว่าระยะที่ 4 เพื่อชะลอความเสื่อมของไตให้ได้ผลดี และลดภาวะแทรกซ้อน โดยแนวทางการการชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมิให้กลายเป็นไตวายเรื้อรังเร็วเกินควร คือ การสร้างความรู้และความตระหนักเกี่ยวกับโรคไต เน้นการจัดการความเสี่ยงของการเกิดโรคไตในชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ สามารถดูแลป้องกันตนเองและสมาชิกในครอบครัวไม่ให้ป่วยเป็นโรคไต และให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์การคัดกรองความเสี่ยงโรคไต ควบคู่กับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันโรคไต และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วย จึงจำเป็นที่จะต้องมียุทธวิธีในการตรวจคัดกรองโรคไตในระยะเริ่มต้นซึ่งจะนำไปสู่การวินิจฉัย และการรักษาอย่างทันท่วงที และถือเป็นแนวทางลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมทั้งชะลอการสูญเสียให้กับผู้ป่วยและครอบครัว ทั้งนี้เมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2568 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เห็นชอบ “ข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2569” ตามมติคณะอนุกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ และเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ให้กับคนไทย จำนวน 10 รายการ โดยหนึ่งในสิทธิประโยชน์ใหม่ ได้แก่ ชุดตรวจในปัสสาวะเพื่อตรวจคัดกรองติดตามโรคไตเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน จำนวน 440 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการรักษาผู้ป่วยโรคไต โดยวางกรอบงบประมาณให้การบริการผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังสูงเป็นลำดับต้นๆ แสดงให้เห็นถึงมุ่งเน้นป้องกันและแก้ปัญหาโรคไตอย่างจริงจังของหน่วยงานภาครัฐในระบบสาธารสุข 

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในอีกมิติ จะเห็นได้ว่า ปัญหาโรคไตเรื้อรังนั้น เป็นปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ ซึ่งยากที่จะรับมือแก้ปัญหาโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งโรคไตเรื้อรังนั้นมีปัจจัยหลักๆ ได้แก่ 1) ปัจจัยด้านบุคคล 2) ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และ 3) ปัจจัยด้านระบบบริการ ทั้งนี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ ปัจจัยด้านบุคคล เช่น อายุ เพศ กรรมพันธุ์ พฤติกรรมสุขภาพ ความอ้วน โรค และการเจ็บป่วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การผนึกกำลังป้องกันและชะลอโรคไตในหน่วยบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ในระดับพื้นฐาน ได้แก่ ระดับชุมชน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคที่มีปัจจัยหลักๆ เกี่ยวเนื่องกับการดูแลรักษาสุขภาพในระดับปฐมภูมิ ที่สำคัญไปกว่านั้น การบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ในระดับพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานวิจัยและหน่วยงานให้ทุนในระบบ ววน. ของไทย ให้เกิดพลังภาคีเครือข่ายการวิจัยพัฒนาและใช้ประโยชน์นวัตกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคไตเรื้อรังและชะลอไตเสื่อมในชุมชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันชะลอและรักษาโรคไตอย่างยั่งยืนให้กับประเทศ

กำหนดการสัมมนา
13.00 – 13.30 น. ลงทะเบียน 
13.30 – 13.40 น. กล่าวเปิดสัมมนา

โดย ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย
ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

13.40 – 13.50 น. ขอบคุณวิทยากร และมอบของที่ระลึก 

โดย ศ.ดร.ศิวพร มีจู สมิธ
รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

13.50 – 14.05 น.

(15 นาที)

(ร่าง) โรคไต เรื่องใกล้ตัว และระบาดวิทยาที่น่าใจหาย 

โดย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น หรือ ผู้แทน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น 

14.05 – 14.20 น.

(15 นาที)

(ร่าง) การรับมือและแก้ปัญหาด้านสุขภาพเชิงพื้นที่ผ่านนโยบายและกลไกองค์การบริหารส่วนจังหวัด : นโยบายก้าวดี และโรคไตเรื้อรัง ภายใต้ขอนแก่นโมเดล

โดย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หรือ ผู้แทน องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

14.20 – 14.35 น.

(15 นาที)

(ร่าง) ถอดประสบการณ์ประชาชนสู้ศึกโรคไตเรื้อรัง และการดำเนินงานป้องกันโดยเครือข่ายภาคประชาชน 

โดย คุณธนพลธ์ ดอกแก้ว
นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย

14.35 – 14.50 น.

(15 นาที)

(ร่าง) มุมมองแหล่งสนับสนุนการวิจัยพัฒนาในระบบ ววน. ในการส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์จริง

โดย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือ ผู้แทน ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) 

14.50 – 15.50 น.

(60 นาที)

เสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : สิทธิประโยชน์ใหม่ ตรวจไต ไม่ไกลตัว 

ผู้ร่วมเสวนา  โดย  

  1. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น หรือผู้แทน
  2. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หรือ ผู้แทน
  3. คุณธนพลธ์ ดอกแก้ว นากยกสมาคมเพื่อนโรคไต
  4. ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง Driver แผนงานนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว สวทช.
    และ แผนงาน Heathy Kit นาโนเทค สวทช.

ดำเนินกิจกรรมเสวนาโดย ดร.หฤษฎ์ พิทักษ์จักรพิภพ : Core team แผนงานนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว สวทช. และแผนงาน Heathy Kit นาโนเทค สวทช

  ผู้ดำเนินรายการ ดร. สุพักตร์ โยไธสCore team แผนงานนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว สวทช. และแผนงาน Heathy Kit นาโนเทค สวทช.
เอกสารประกอบการสัมมนา
VDO เกี่ยวกับการสัมมนา
เกี่ยวกับวิทยากร

                             

ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย
ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ศ.ดร.ศิวพร มีจู สมิธ
รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น 
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นหรือผู้แทน
ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
คุณธนพลธ์ ดอกแก้ว
นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย
ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์  หรือ ผู้แทน
ผู้แทน ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)
ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง
Driver แผนงานนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว สวทช. และ แผนงาน Heathy Kit นาโนเทค สวทช.
ดร.หฤษฎ์ พิทักษ์จักรพิภพ
ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช.
ดร.สุพักตร์ โยไธสง
Core team แผนงานนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว สวทช. และแผนงาน Heathy Kit นาโนเทค สวทช.
หัวข้อสัมมนาอื่น ๆ