งานจัดการการลงทุน (NSTDA Investment Section : NIS) เดิมชื่อศูนย์ลงทุน (NSTDA Investment Center: NIC) เป็นหน่วยงานภายใต้ สายงานบริหารการวิจัยและพัฒนา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำหน้าที่ด้านการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดผลต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยนำเทคโนโลยีของคนไทย และ/หรือ ของ สวทช. ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ผ่านการร่วมลงทุนในบริษัทเกิดใหม่ หรือแปรรูปโครงการใน สวทช. เป็นบริษัท รวมทั้งพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี แสวงหาโอกาสทางเทคโนโลยีที่น่าลงทุน และจัดการการลงทุนของ สวทช. ด้วยความโปร่งใส
สวทช. เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการร่วมลงทุนเพื่อใช้เป็นกลไกสนับสนุนภาคเอกชนของไทยในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เจริญก้าวหน้า ตลอดจนพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวทันโลก จึงได้จัดตั้งงานจัดการการลงทุนขึ้นมาในปี 2541 เพื่อดำเนินการร่วมทุนในกิจการที่มีศักยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมในหลากหลายธุรกิจเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Advanced Material, Agriculture, Biotechnology, E-Training, ICT, Internet, Machine and Engineering และ Medical Device เป็นต้น
ภาพรวมโดยย่อเกี่ยวกับงานจัดการการลงทุน สวทช. มีดังนี้
ณ ธันวาคม 2566 สวทช. จัดตั้งบริษัทร่วมทุนทั้งสิ้น 22 บริษัท เงินลงทุนรวม (เฉพาะส่วน สวทช.) ประมาณ 675.23 ล้านบาท
- ผลักดันบริษัทร่วมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 1 บริษัท
- บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
- ปัจจุบันมีบริษัทร่วมทุน 9 บริษัท เงินลงทุนรวม 569.10 ล้านบาท สามารถสร้างผลกระทบด้านรายได้ของบริษัทร่วมทุนในปี 2566 รวมไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET)
- บริษัท ไมโครอินโนเวต จำกัด (MICRO)
- บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SAKUN C)
- บริษัท เจเนพูติก ไบโอ จำกัด (GNPT)
- บริษัท บิ๊กโก อนาไลติกส์ จำกัด (BIGGO)
- บริษัท ไบโอเบส เอเชีย ไพล็อต แพลนท์ จำกัด (BBAPP)
- บริษัท นาสท์ด้า โฮลดิ้ง จำกัด (NHC)
- บริษัท ดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด (DWT)
- กองทรัสต์เพื่อกิจการเิงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกัน 1 (PE Trust)
วิสัยทัศน์
ผู้ผลักดันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยโดยใช้กลไกการลงทุนที่ได้ผล
พันธกิจ
- เชื่อมวงการลงทุนเข้ากับวงการวิทยาศาสตร์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของไทย
- พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี
- แสวงหาโอกาสทางเทคโนโลยีที่ควรมีการพัฒนาและลงทุน
- จัดการการลงทุนของ สวทช. ในบรรดาธุรกิจเทคโนโลยีด้วยความโปร่งใสและเป็นระบบ กำกับดูแล/ติดตามโครงการลงทุนด้วยธรรมาภิบาล
เป้าหมาย
- สร้างกลไกติดตามผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดจากกิจกรรมและผลงานของ สวทช. ในภาพรวม
- ผลักดันให้การลงทุนในธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สวทช. มีผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ
- สร้างและพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Technopreneurship) ให้แก่นักวิจัยและพนักงานกลุ่มเป้าหมาย ให้มีผู้ที่ตั้งใจจริงในการก่อตั้งธุรกิจเทคโนโลยี
- สนับสนุนการลงทุนและพัฒนาให้เกิดบริษัทร่วมทุนในธุรกิจทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากการแปรรูปโครงการของ สวทช. และการร่วมทุนกับภาคเอกชน
- บริหารจัดการและติดตามการลงทุนของ สวทช. ให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตราที่เหมาะสม
- สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการลงทุน รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งกองทุนร่วมทุน (Venture Capital Fund) หรือเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะมีขึ้น ในประเทศไทย เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
- พัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการลงทุน
นโยบายการลงทุน
นโยบายของ สวทช. ว่าด้วยการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี
สวทช. จะลงทุนในธุรกิจที่มีผลประโยชน์แก่การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ และมีผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและสังคมที่ชัดเจน ได้แก่ ธุรกิจที่บุกเบิกทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมจาก สวทช. หรือเอกชน หรือรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ธุรกิจวิจัยและพัฒนา โดยจะเน้นการลงทุนในธุรกิจที่ตั้งใหม่ (start-up) ที่มีศักยภาพในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (Early commercialized stage) สวทช. จะไม่ลงทุนในธุรกิจที่ต้องการสนับสนุนทางด้านการเงินเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาบทบาทของ สวทช. ในการพัฒนาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเป็นสำคัญ
นโยบายการแปรรูป (Spin-off) ผลงานเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ (NSTDA Startup)
สวทช. ได้พัฒนากลไกการ spin-off เพื่อเข้าโครงการ "NSTDA Startup" ขึ้นเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการต่อยอดงานวิจัยไปสู่การสร้างธุรกิจ ผ่านการลงทุนใน NSTDA Startup ที่มีบุคลากร สวทช.ไปเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับ พันธมิตรร่วมทุน (Strategic Partner) จากภาคเอกชน โดยอาจมี สวทช. ไปร่วมทุนด้วยก็ได้ เพื่อทำหน้าที่ช่วยผลักดันธุรกิจเทคโนโลยีนั้นให้ประสบผลสำเร็จ