A Genetic Lens on Mangrove Conservation

ป่าชายเลน: ผู้พิทักษ์ชายฝั่งกับมุมมองการอนุรักษ์ผ่านเทคโนโลยีโอมิกส์

เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ป่าชายเลนทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ชายฝั่งตามธรรมชาติ ทั้งช่วยป้องกันการกัดเซาะของชายฝั่ง ลดแรงปะทะจากคลื่นและพายุ แล้วยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์ทะเลจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมประมงที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สูญเสียป่าชายเลนไปมากกว่าร้อยละ 60 เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าและการพัฒนาเมือง ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ความพยายามในการอนุรักษ์เป็นสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน

For centuries, mangroves have served as nature’s coastal guardians, acting as protective and vital barriers against erosion and storm surges while providing a haven for marine species. These ecosystems are crucial to the fishing industry, which contributes significantly to the nation’s economy. However, over the past 50 years, more than 60% of Thailand’s mangroves have been lost due to deforestation and urban development. With their disappearance comes increased vulnerability to environmental changes, making conservation efforts ever more pressing.

“ป่าชายเลนคอยปกป้องพวกเราอยู่เสมอ” ความจริงผ่านคำพูดของชาวประมงท้องถิ่น “ป่าชายเลนทั้งช่วยกันคลื่นลมให้กับชายฝั่งและยังให้ที่อยู่อาศัยแก่ลูกปลา ลูกปู ถ้าไม่มีป่าชายเลนคนพื้นที่ก็อยู่ยาก”

“Mangroves have stood by us,” reflected a local fisherman. “They protect us from the waves and give young fish and crabs a place to grow. Without them, our way of life would be at risk.”

การทำความเข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชป่าชายเลนนับเป็นอีกหนึ่งความรู้สำคัญ ที่จะช่วยให้การวางแผนการอนุรักษ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลทางพันธุกรรมนั้นช่วยให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมแบบต่างๆของพืชป่าชายเลน เช่น การปรับตัวเพื่อต่อสู้กับสภาพน้ำทะเลที่สูงขึ้น และความเค็มของน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน รวมถึงการสูญเสียแหล่งที่อยู่จากปัจจัยภายนอกต่างๆ  เทคโนโลยีการหาลำดับดีเอ็นเอด้วยเครื่อง DNBSEQ-G400RS ของ MGI เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้นักวิจัยสามารถประเมินความหลากหลายนี้ได้อย่างแม่นยำ และนับเป็นก้าวสำคัญในกระบวนการวางแผนการอนุรักษ์

Understanding the genetic diversity of mangroves is essential to developing effective conservation strategies. Genetic data reveals how species adapt to challenges such as rising sea levels, changes in salinity, and habitat loss. The MGI sequencer DNBSEQ-G400RS allows for precise evaluation of such diversity for the first time, enabling researchers to delve into this genetic complexity with unprecedented precision, marking significant progress in conservation strategies.

ดร.เจเรมี เชียร์แมน นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ (NOC) กล่าวว่า “ป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญอย่างมากต่อพื้นที่ชายฝั่งและปากแม่น้ำ โดยทำหน้าที่ในการป้องกันการกัดเซาะจากคลื่นและพายุ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ ช่วยเพิ่มปริมาณสัตว์ทะเลในมหาสมุทร การเข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชป่าชายเลนจะช่วยให้เราสามารถอนุรักษ์ระบบนิเวศอันมีค่านี้ได้อย่างยั่งยืน” และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการอนุรักษ์ เราต้องการระบุชนิดพันธุ์ของพืชป่าชายเลนที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นทำการหาลำดับเบสของจีโนมพืชดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิง เมื่อได้ฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิงของพืชแต่ละชนิดมาแล้วจึงใช้เทคนิคการหาลำดับดีเอ็นเอด้วยเอนไซม์จำเพาะ (RAD-seq) ในการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรพืชป่าชายเลนแต่ละชนิดที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย”

Dr. Jeremy Shearman, Senior Researcher at the NOC, emphasized the value of this approach. “Mangroves are essential for coastal regions and estuaries. They offer erosion protection from surf and storm damage, creating nurseries for young marine life that replenish ocean stocks. Understanding genetic diversity helps us preserve these valuable ecosystems.” He further explained, “The main purpose of the research was for conservation. We wanted to identify the species present, sequence their genomes to create reference databases, and use restriction enzyme sequencing to measure genetic variation across mangrove populations throughout Thailand.”

ดร.วิรัลดา ภูตะคาม ผู้อำนวยการศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ (NOC) กล่าวเพิ่มเติมว่า “การสร้างฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิงสำหรับพืชป่าชายเลนทั้ง 15 ชนิดในประเทศไทยนั้นเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่จะช่วยยกระดับการวางแผนการอนุรักษ์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ด้วยการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรพืชป่าชายเลนอย่างแม่นยำจากข้อมูลระดับดีเอ็นเอ”

Dr. Wirulda Pootakham, Director of NOC, remarked, “Building a reference genome database for 15 mangrove species in Thailand allows us to assess genetic diversity more accurately using DNA data. This is vital for prioritizing conservation efforts.”

Share:

Facebook
Twitter