Traffy Fondue

    Core business ของ สวทช. นับเป็นงานสำคัญของ สวทช. ที่ได้มีการระดมบุคลากรจำนวนมากจากหลายส่วนงานมาร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดัน เพื่อมุ่งให้เกิดการต่อยอดจากสมรรถนะหลักขององค์กรไปสู่การใช้ประโยชน์จริง ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหมู่มากในประเทศ ตลอดจนสามารถนำมาสู่รายได้หรืองบประมาณกลับเข้า สวทช. อย่างยั่งยืนต่อไป  และสำหรับ Core business ที่จะนำเสนอในฉบับนี้ มีชื่อว่า Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีสโลแกนว่า “เรามาร่วมกัน ช่วยเปลี่ยนแปลงให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหม่ด้วยเทคโนโลยี” เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับการบริหารจัดการปัญหาเมือง และได้ถูกนำไปใช้งานมาสักระยะนึงแล้ว ทั้งนี้ หลายท่านอาจยังมีข้อสงสัยว่า Traffy Fondue มีการทำงานอย่างไร เรามาดูรายละเอียดถึงขั้นตอนการทำงาน การแจ้งผลกลับไปยังประชาชนผู้แจ้งปัญหาไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

Traffy Fondue คือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง ที่จัดทำขึ้นสำหรับสื่อสารปัญหาของเมืองระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่พบไปให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ โดยแบ่งเป็นการแจ้งปัญหา 16 ด้านหลัก ได้แก่ ไฟฟ้า/ แสงสว่าง ประปา จราจร/รถยนต์ ถนน ทางเท้า ระบบสื่อสาร กลิ่น เสียง ความสะอาด ความปลอดภัย ต้นไม้สาธารณะ อาคารชำรุด วัสดุชำรุด ห้องประชุม ระบบปรับอากาศ และสัตว์ ซึ่งหากจุดที่เกิดเหตุยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบลงทะเบียนไว้ในแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ระบบจะดำเนินการแจ้งให้ผู้แจ้งเหตุรับทราบโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้แจ้งเหตุดำเนินการแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นไปยังช่องทางอื่นๆ ต่อไป ซึ่งการใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มนี้ นอกจากจะช่วยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถดำเนินการได้ทันทีแล้ว ยังเป็นช่องทางสื่อสาร ให้ข้อมูล และอัพเดตสถานการณ์การแก้ไขปัญหากลับมายังประชาชนได้ นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ยังมีระบบบริหารจัดการและติดตามปัญหา บริการข้อมูลทางสถิติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนงบประมาณและกำลังคน ซึ่งหน่วยงานของรัฐและเอกชนสามารถตั้งกลุ่มรับแจ้งและบริหารจัดการปัญหาของตนเองได้อีกด้วย

สำหรับขั้นตอนในการแจ้งของประชาชน: สามารถแจ้งผ่าน LINE@ TraffyFondue เพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ “เจอ แชะ แชท” ใช้เวลาเพียง 30 วินาที-1 นาที ซึ่งแจ้งได้ทุกพื้นที่ ทุกเวลา และยังเป็นการแจ้งไปยังผู้รับผิดชอบโดยตรง และเมื่อมีความก้าวหน้าก็จะมีการแจ้งเตือนกลับมายังผู้แจ้งอีกด้วย ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องก็ “เจอ จัด จบ”เมื่อได้รับข้อมูลจากผู้แจ้งครบถ้วนทั้งภาพและตำแหน่ง ก็สามารถจัดการปัญหาได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์ หรือกรณีที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อคุยกับผู้แจ้งได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งผู้บริหารก็เพียงแค่ “แพลน แอค เช็ค” โดยไม่ต้องคอยสั่งงานไปยังแต่ละส่วนที่รับเรื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถจัดการได้เอง อีกทั้งยังสามารถดูภาพรวมในลักษณะ Dashboard ที่แสดงรายงานข้อมูลเชิงลึก ประกอบด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่ ติดตามการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ อันช่วยให้สามารถบริหารจัดการปัญหาได้อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และทันเวลา

    สำหรับทิศทางการพัฒนา Traffy Fondue ในฐานะที่เป็น NSTDA Core Business นั้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การส่งมอบตัวแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ใช้งานได้เท่านั้น แต่จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารข้อมูลจำนวนมากให้เกิดประโยชน์ และสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นไปควบคู่กับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง มีการวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูลให้ดีขึ้น โดยวางแผนจะพัฒนาไปสู่การเป็นแพลตฟอร์ม Big Data ที่สามารถบริหารข้อมูลจำนวนมากและสามารถเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด รวดเร็วที่สุด และสามารถติดตามปัญหาได้ต่อไป

     และสุดท้ายนี้ ขอแนะนำผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาและทำหน้าที่บริหารจัดการ Traffy Fondue หรือที่เรียกว่า Core Business Director (CBD) ซึ่งก็คือ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ https://www.traffy.in.th/