“เนื้อเยอะ เม็ดลีบ เปลือกบาง มีรสหวานจากธรรมชาติ และปราศจากสารเคมี” คือจุดเด่นของทุเรียนสวนนิรามิสสุข จังหวัดตราด ที่นอกจากจะผ่านการบ่มเพาะด้วยความใส่ใจแล้ว ยังใช้นวัตกรรม ‘ถุงห่อทุเรียน Magik Growth (เมจิกโกรท)’ ผลงานนักวิจัยไทยที่เข้ามาช่วยลดปัญหาหนอนเจาะผลทุเรียน เพลี้ยแป้ง สัตว์กัดแทะและราดำ รวมทั้งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตทุเรียนด้วย
หนอนเจาะผลทุเรียน ทำผลผลิตเสียหายมากกว่าครึ่ง !
นายขจรพงศ์ ชูปัญญานนท์ ผู้จัดการสวนนิรามิสสุข จังหวัดตราด เล่าว่า สวนนิรามิสสุขมีพื้นที่ทั้งหมด 50 ไร่ เป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 30 ไร่ แบ่งเป็นทุเรียน 10 ไร่ และมังคุดกับลองกองรวม 20 ไร่ ทั้งนี้มีแนวคิดหันมาทำสวนทุเรียนอินทรีย์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการทำเกษตรอินทรีย์มีปัญหาหนักที่ต้องเจอ คือ โรคและแมลง อีกทั้งความรุนแรงก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะแมลงศัตรูพืช
“ปัญหาใหญ่ที่พบคือ ‘หนอนเจาะทุเรียน’ แต่ละปีผลผลิตทุเรียนมีความเสียหายรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งปีล่าสุด ผลผลิตทุเรียนเสียหายมากกว่า 50% สมมติมีทุเรียน 1,000 กว่าลูก โดนหนอนเจาะไปแล้ว 600-700 ลูก ซึ่งทุเรียนที่หนอนเจาะส่งขายไม่ได้ ก็ต้องหาทางออกด้วยการแกะเนื้อทุเรียนไปแปรรูป เช่น ทุเรียนกวน ทำให้มูลค่าการขายลดลง สร้างความเสียหายอย่างมาก”
นวัตกรรมถุงห่อทุเรียน ป้องกันหนอนเจาะ 100%
ที่ผ่านมาสวนนิรามิสสุขพยายามหาวิธีแก้ปัญหา ทั้งการใช้สารชีวภัณฑ์ สมุนไพร รวมถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ในการป้องกันแต่ยังไม่เห็นผลเด่นชัด กระทั่งเจอนวัตกรรม ‘ถุงห่อทุเรียน Magik Growth’ ผลงานการพัฒนาของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่อาจเป็นทางออก
“ตอนแรกเห็นราคาถุงห่อทุเรียน Magik Growth ก็แอบลังเลใจ เพราะราคาใบละ 40 กว่าบาท แต่เมื่อมองในระยะยาว ถุงห่อใช้ซ้ำได้ถึง 2-3 รอบการผลิต และสามารถส่งกลับคืนไปยังผู้ขายเพื่อแลกเป็นส่วนลดกับการซื้อถุงล็อตใหม่ได้ ก็คิดว่าถ้าใช้แล้วดีในระยะยาวก็น่าลอง ในช่วงปีแรกทดลองใช้ถุงห่อทุเรียนบางส่วนก่อนประมาณ 30 ต้น ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พอใจมาก เพราะป้องกันหนอนเจาะทุเรียนแทบ 100% ทำให้ปัจจุบันนี้สวนนิรามิสสุขใช้ถุงห่อทุเรียน Magik Growth กับทุเรียนทุกต้นทั้งสวนมาแล้วถึง 3 รอบการผลิต”
การใช้ถุงห่อทุเรียนไม่เพียงลดผลผลิตที่เสียหาย แต่ยังได้เสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างล้นหลามถึง ‘คุณภาพทุเรียน’
“ผู้บริโภคและแม่ค้าที่รับทุเรียนไปขายบอกว่า ทุเรียนของเราคุณภาพดี ผิวสวย มีปริมาณเนื้อทุเรียนเยอะ เม็ดเล็ก เปลือกบาง เวลาผ่าลูกทุเรียนเห็นเนื้อทุเรียนแล้ว ลูกค้าชอบมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ถุงห่อทุเรียน Magik Growth ด้วยเช่นกัน ดังนั้นนวัตกรรมนี้ไม่ได้มีดีแค่ป้องกันแมลง แต่ช่วยยกระดับคุณภาพทุเรียนด้วย”
ความลับที่ซ่อนอยู่ใน ‘ถุงแดง’
เห็นเป็นเพียงถุงแดง ๆ ใช่ว่าจะออกแบบมาแค่ห่อหุ้มทุเรียนไม่ให้แมลงหรือสัตว์กัดแทะเข้าทำลายผล เพราะถุงห่อทุเรียน Magik Growth ยังผ่านการวิจัยและพัฒนาให้มีสมบัติพิเศษต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของผลทุเรียน
ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ ทีมวิจัยสิ่งทอ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง เอ็มเทค สวทช. ผู้พัฒนาถุงห่อทุเรียน Magik Growth กล่าวว่า ถุงห่อถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นโครงสร้าง 3 มิติ เกิดจากการพัฒนาสูตรพอลิเมอร์ และใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปนอนวูฟเวน ทำให้ถุงมีรูพรุนและความหนาที่เหมาะสม ช่วยให้ถ่ายเทน้ำและอากาศได้ดี แต่ขณะเดียวกันถุงห่อก็แข็งแรงพอที่จะนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ถึง 2-3 ฤดูกาลผลิต นอกจากนี้ผิวด้านนอกถุงห่อยังมีความลื่นจึงช่วยลดการเข้าทำลายของสัตว์กัดแทะ เช่น กระรอก กระแต และกระถิกได้
“ตัวถุงห่อที่เลือกใช้สีแดง เพราะเป็นช่วงคลื่นแสงที่ช่วยกระตุ้นการพัฒนาผลในทุเรียน ลดปริมาณเส้นใย และปริมาณไฟเบอร์ในเนื้อทุเรียน พร้อมกันนี้ตัวถุงยังสามารถคัดกรองช่วงแสงที่มีความจำเพาะต่อการเติบโตของทุเรียนด้วย ช่วยให้ทุเรียนสร้างสารสำคัญในผลไม้ทั้งแป้ง น้ำตาล สารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลการทดลองใช้ถุงห่อทุเรียนทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและภาคสนามร่วมกับภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พบว่าถุงห่อช่วยให้น้ำหนักและปริมาณเนื้อของทุเรียนเพิ่มขึ้น”
ถุงห่อทุเรียนคุ้มค่า ! ลดสารเคมี เพิ่มมูลค่าการขาย
การใช้ถุงห่อทุเรียน Magik Growth แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นในเรื่องของค่าถุง และค่าจ้างในการห่อผล แต่ผู้ประกอบการและเกษตรกรที่หันมาทดลองใช้ต่างยืนยันว่าคุ้มค่าในระยะยาว เพราะนอกจากช่วยลดต้นทุนการใช้สารเคมีได้มากแล้ว ยังช่วยพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพดีระดับพรีเมียม
ดร.ณัฐภพ เล่าว่า เทคโนโลยีถุงห่อทุเรียน Magik Growth มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทเอกชนเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว ปัจจุบันมีสวนทุเรียนนำถุงห่อทุเรียนไปใช้งานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออก เช่น จ.ระยอง จันทบุรี และตราด เกษตรกรผู้ใช้งานบอกว่า การห่อทุเรียนทำให้ผิวเปลือกทุเรียนสะอาด สีสวย ลดการเกิดโรคและความเสียหายจากแมลง ช่วยลดการใช้สารเคมี อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและเกษตรกร ที่สำคัญผลทุเรียนที่ได้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เปลือกบาง ปริมาณเนื้อเยอะ ทำให้เพิ่มราคาขายได้อีกด้วย ล่าสุดล้งส่งออกทุเรียนจันทบุรี (ล้งเอ-ต่าย) ซึ่งรับซื้อผลผลิตทุเรียนปีละหลายตันเพื่อส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้ ได้ร่วมสนับสนุนเกษตรกรในเครือข่ายใช้ทุเรียนถุงห่อ Magik Growth เพื่อบรรเทาผลกระทบความเสียหายจากการตรวจพบสารเคมีที่เปลือกทุเรียน
ผลผลิตทุเรียนปลอดภัย เพราะใช้ถุงแดง
สำหรับสวนนิรามิสสุขที่ปลูก ‘ทุเรียนอินทรีย์’ การใช้ถุงห่อทุเรียน Magik Growth อาจไม่ได้มีผลต่อการลดต้นทุนสารเคมี แต่ถุงห่อทุเรียนคือตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายการผลิต ‘ทุเรียนปลอดภัย’
“เราตั้งใจปลูกทุเรียนปลอดภัย อยากปลูกผลไม้ปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้รับประทาน ซึ่งนวัตกรรมถุงห่อทุเรียน Magik Growth เข้ามาตอบโจทย์ได้มาก ทั้งสร้างความแตกต่าง และเป็นเกราะป้องกันปัญหาโรคและแมลงได้ 100% ที่สำคัญคือการห่อทุเรียนทำให้เรารู้สึกว่าได้ดูแลทุเรียนทุกลูกจริง ๆ อีกทั้งเสียงตอบรับจากผู้บริโภคต่างก็ประทับใจทั้งในเรื่องคุณภาพและเนื้อสัมผัส ทำให้เราจะยังใช้ถุงห่อทุเรียน Magik Growth ต่อไป เพื่อสร้างผลผลิตและนิเวศปลอดภัยให้ทุกคน” นายขจรพงศ์กล่าวทิ้งท้าย
ถุงห่อทุเรียน Magik Growth นับเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับ ‘ผลไม้เศรษฐกิจไทย’ ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบจากการใช้สารเคมี ดีต่อสุขภาพผู้บริโภคและเกษตรกร ตอบโจทย์การขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยสู่ความยั่งยืน
เรียบเรียงโดย วัชราภรณ์ สนทนา ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช.
อาร์ตเวิร์คโดย ฉัตรทิพย์ สุริยะ ฝ่ายผลิตสื่อสมัยใหม่ สวทช.