ไมโครกรีน คือต้นอ่อนของผักที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ แต่โดดเด่นด้วยปริมาณสารอาหารและพฤกษเคมีที่สูงกว่าผักโตเต็มวัยทั่วไป เปรียบเทียบเช่น “กินต้นอ่อนบร็อคโคลี 50 กรัม ได้ประโยชน์เท่ากินบร็อคโคลีโตเต็มวัย 1 หัว”
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ชี้ว่า ไมโคกรีนมีแนวโน้มได้รับความนิยมในการบริโภคสูงขึ้น เพราะผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องรับประทานผักปริมาณมากเพื่อให้ได้สารอาหารเท่าที่ต้องการ นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยยืนยันว่าต้นอ่อนของผักตระกูลกะหล่ำมีสารต้านมะเร็งอีกด้วย
ด้านกระบวนการเพาะปลูก การผลิตไมโครกรีนนิยมทำในระบบปิดเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อม ลดความเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อน จึงเป็นที่มาให้ มจธ. ทำ “โครงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไมโครกรีนในระบบปิดควบคุมสภาวะแวดล้อมภายใต้แสงเทียม (Plant Factory with Artificial Light, PFAL)” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. และ สวก.
การเพาะปลูกไมโครกรีน ใช้เวลาเพียง 7-10 วัน ก็สามารถนำมาบริโภคได้ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญ เพราะเกษตรกรสามารถเพิ่มรอบการผลิตได้มากกว่าต้นโตเต็มวัยหลายเท่า
ล่าสุด มจธ. ได้เริ่มทดลองนำผลผลิตไมโครกรีนชนิดต่างๆ ออกจำหน่ายแล้ว ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ โกลเด้นเพลส, ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน ภายใต้แบรนด์ “Dr.Sprouts & Microgreens”