เรื่องโดย พงศกร จิวาภรณ์คุปต์
ภัยคุกคามพื้นที่ป่าอนุรักษ์และพื้นที่ต้นน้ำลำธารเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำไร่หมุนเวียน ไฟป่า ภัยเหล่านี้ไม่ได้ทำลายเพียงสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ แต่ส่งผลกระทบกับระบบนิเวศป่าไม้โดยรวม โครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลง ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง พื้นที่ขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง น้ำในแม่น้ำและลำธารมักจะแห้งเหือด ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรและการดำรงชีวิตของคนในชุมชน
รู้หรือไม่ว่า “ฝายชะลอน้ำ” หรือ “check dam” เป็นเทคโนโลยีที่มีมาตั้งแต่อดีต ไม่เพียงแต่ช่วยเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝน แต่ยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดินและป้องกันการกัดเซาะของดิน ทำให้พื้นที่รอบ ๆ มีความชุ่มชื้น เป็นพลังช่วยฟื้นฟูธรรมชาติและช่วยส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ
การใช้งานฝายชะลอน้ำมีมาตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เช่น อารยธรรมเมโสโปเตเมีย สร้างฝายและระบบชลประทานเพื่อควบคุมน้ำจากแม่น้ำไทกริสและยูเฟรตีสสำหรับใช้ในการเกษตรและการดำรงชีวิต อารยธรรมอียิปต์โบราณ สร้างฝายและเขื่อนเพื่อควบคุมน้ำจากแม่น้ำไนล์เพื่อใช้ในการเกษตรและการดำรงชีวิต ยุโรปยุคกลาง สร้างฝายและเขื่อนเพื่อควบคุมน้ำในแม่น้ำและลำธารเพื่อใช้ในการเกษตรและการผลิตพลังงานจากน้ำ
สำหรับประเทศไทย นอกจาก “ฝายชะลอน้ำ” แล้ว คนไทยยังเรียก “check dam” อีกหลายชื่อ เช่น ฝายต้นน้ำ ฝายชะลอความชุ่มชื้น ฝายแม้ว มีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยขอมโบราณ สุโขทัย และล้านนาว่า คนสมัยนั้นใช้วัสดุธรรมชาติในการสร้างฝายเพื่อควบคุมน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่เกษตรกรรม โดยวัสดุที่ใช้และวิธีการสร้างจะแตกต่างกัน และได้พัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีมาจนถึงปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้วฝายชะลอน้ำสร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หิน ดิน ไม้ ในลำธารหรือแม่น้ำขนาดเล็ก เพื่อชะลอการไหลของน้ำและเก็บกักน้ำไว้ในพื้นที่หนึ่ง ๆ แต่ถ้าต้องการความแข็งแรงจะใช้คอนกรีต ฝายต้นน้ำทำหน้าที่หลัก 2 ประการ คือ เพื่อชะลอการไหลของน้ำจากแหล่งต้นน้ำลำธาร ไม่ให้ไหลหลากอย่างรวดเร็ว และเพื่อดักตะกอนหน้าดินไม่ให้ไหลปนไปกับกระแสน้ำจนทำให้น้ำมีความขุ่นข้นและไปทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่ด้านล่างต้องตื้นเขิน ผลประโยชน์ที่เกิดต่อเนื่องจากฝายชะลอน้ำ คือ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและพืชน้ำ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้ห้วยแห้งมีน้ำไหลเป็นระยะเวลานานขึ้น เสริมความชื้นในดินสองฝั่งลำธาร และปรับเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งสู่พื้นที่เกษตรกรรมหรือพื้นที่ต้นน้ำลำธารต่อไป
ฝายชะลอน้ำกึ่งถาวรเป็นแหล่งสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ข้างเคียงในช่วงฤดูแล้ง
ส่วนในฤดูแล้งที่ฝนไม่ตก น้ำในลำธารอาจมีปริมาณน้อยไม่สามารถไหลข้ามฝาย แต่น้ำที่กักเก็บไว้หลังฝายชะลอน้ำเป็นแหล่งให้ความชื้นกับดิน โดยจะค่อย ๆ ซึมออกมาอย่างช้า ๆ ผ่านใต้ฝายในลำธาร ทำให้พื้นที่ยังมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา พืชพรรณทั้งในพื้นที่และโดยรอบจึงเจริญเติบโตได้แม้ในช่วงฤดูแล้ง นอกจากนี้ฝายชะลอน้ำยังเป็นแนวป้องกันและลดการเกิดไฟป่า ที่เรียกว่า แนวกันไฟเปียก (wet fire break) อีกด้วย
การสร้างฝายชะลอน้ำในประเทศไทยมี 3 รูปแบบ คือ
- ฝายแบบท้องถิ่น เป็นฝายผสมผสานจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หินในลำธาร ไม้ท้องถิ่น ซึ่งเหมาะกับลำธารขนาดเล็ก ที่มีอยู่ในที่ค่อนข้างราบ ถ้าพื้นที่มีความลาดชัน อาจเสริมแกนดินอยู่กึ่งกลาง ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
2. ฝายกึ่งถาวร เช่น ฝายหิน กรวด ทราย อาจมีปูนซีเมนต์มาเสริมความแข็งแรง เหมาะกับลำธารขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลแรงขึ้น
3. ฝายแบบถาวร หรือเป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก จำเป็นต้องมีการออกแบบโดยช่างที่มีความรู้ด้านก่อสร้างฝายเหมาะสำหรับลำน้ำที่มีขนาดกว้าง มีน้ำไหลแรงเมื่อมีฝนตก หรือมีพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริให้ใช้ฝายชะลอน้ำกักตะกอนในพื้นที่ลาดชัน เป็นมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ ให้สร้างฝายต้นน้ำเสริมบริเวณภูเขาเพื่อเพิ่มความชื้นดินในพื้นที่ปลูกป่าทดแทนหรือป่าแห้งแล้ง โดยสร้างฝายราคาประหยัด ใช้วัสดุราคาถูก หาง่ายในท้องถิ่น กำหนดให้สร้างฝายต้นน้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อกักน้ำและตะกอนดิน ผลที่ได้คือ คุณภาพน้ำที่ดีขึ้นจากตะกอนในน้ำลดลง แหล่งน้ำตื้นเขินช้าลง ตลอดจนลดการเกิดไฟป่า และลดผลกระทบจากน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่
ฝายชะลอน้ำจึงเปรียบเหมือนเครื่องมือขนาดเล็กที่ช่วยลดความรุนแรงของภัยธรรมชาติได้ทั้งในบริเวณพื้นที่แห้งแล้งและพื้นที่น้ำหลาก หน่วยงานท้องถิ่นและเยาวชนในพื้นที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับประเภทและประโยชน์ของฝายชะลอน้ำมาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ท้องถิ่นตนเองได้ โดยมีขั้นตอนการสร้างง่าย ๆ ดังนี้
- เลือกสถานที่ : เลือกสถานที่ที่มีน้ำไหลผ่านและมีความลาดชันเล็กน้อย เลือกความกว้างของลำน้ำไม่เกิน 3 เมตร
- เตรียมวัสดุ : หาไม้ หิน หรือดินที่มีอยู่ในท้องถิ่น
- สร้างโครงสร้าง : วางหินหรือไม้ขวางลำธารให้เป็นชั้น ๆ ให้มีช่องว่างเล็กน้อยให้น้ำไหลผ่านได้ ความสูงของฝายประมาณ 6-1.0 เมตร อาจเสริมความแข็งแรงด้วยโครงลวดตาข่าย
- ตรวจสอบและบำรุงรักษา : ควรตรวจสอบฝายชะลอน้ำเป็นระยะ ๆ หรือทุกหน้าแล้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการพังทลาย และซ่อมแซมเมื่อจำเป็น
การสร้างฝายชะลอน้ำในชุมชนโดยเยาวชนจิตอาสาและชาวบ้าน
การสร้างฝายชะลอน้ำบริเวณพื้นที่ต้นน้ำจะช่วยฟื้นฟูป่าไม้ธรรมชาติให้กลับมาสมบูรณ์ขึ้น ช่วยเพิ่มการดูดซับและกักเก็บแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากการเจริญเติบโตของต้นไม้ การเพิ่มจำนวนฝายชะลอน้ำในแต่ละชุมชนช่วยให้มีน้ำพอใช้ในการทำเกษตรกรรม ดังนั้นการสร้างฝายชะลอน้ำจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน มีตัวอย่างความสำเร็จของโครงการฝายชะลอน้ำในหลายพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ฝายชะลอน้ำศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่, โครงการฝายชะลอน้ำบ้านโนนสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา, โครงการฝายชะลอน้ำบ้านหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี, การสร้างฝายชะลอน้ำกว่า 27,000 แห่งในภูมิภาคเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดินในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย, โครงการจัดการน้ำในภูมิภาคแห้งแล้ง เช่น ภูมิภาคอันดาลูซิอา (Andalusia) ประเทศสเปน
ฝายชะลอน้ำเป็นโครงสร้างที่มีประโยชน์และใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและการกัดเซาะของดิน การสร้างฝายชะลอน้ำช่วยเก็บกักน้ำฝน เพิ่มปริมาณน้ำใต้ดิน และสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการกัดเซาะของดินและสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์ป่าอื่น ๆ ในประเทศไทย ฝายชะลอน้ำได้รับการส่งเสริมและพัฒนาภายใต้แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นตัวอย่างที่ดีในการฟื้นฟูธรรมชาติ เป็นไปตามมาตรการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการดำรงชีวิตของประชาชน
การสร้างฝายชะลอน้ำไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติ รักษาสมดุลระบบนิเวศและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น สร้างความสามัคคีในการสร้างฝายชะลอน้ำในชุมชนของเรา เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นกันเถอะครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.). 2542. ฝายต้นน้ำลำธาร. แหล่งที่มา : https://km.rdpb.go.th/Knowledge/View/21