30 มีนาคม วันปลอดขยะสากล ค่านิยมใหม่ของความยั่งยืนจาก 0 สู่ ∞ และจากผู้บริโภคสู่ผู้ลงทุน

เรื่องโดย รศ. ดร.ทวีธรรม ลิมปานุภาพ


สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ให้วันที่ 30 มีนาคมของทุกปีเป็นวันปลอดขยะสากล โดยเริ่มกิจกรรมรายปีตั้งแต่ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป เนื่องในปีที่สามของวันปลอดขยะสากล ใน พ.ศ. 2568 นี้ ขอพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศวันสำคัญสากลและผลกระทบที่ตามมา

ความเป็นมาของวันสำคัญสากล

สหประชาชาติ (รวมถึงทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ) ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันได้ประกาศให้มากกว่า 200 วันในปฏิทินเป็นวันสำคัญสากลที่มีกิจกรรรมการเฉลิมฉลองหรือรณรงค์เป็นประจำทุกปี เรียกโดยรวมว่าวันสากล (International Days) ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธารณชนมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการประกาศให้สัปดาห์ ปี ทศวรรษ หรือการครบรอบเหตุการณ์สำคัญมีความสำคัญในระดับสากลได้อีกด้วย[1] เช่น

  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 24 ถึง 30 เมษายน เป็น “สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนโลก”
  • พ.ศ. 2562 เป็น “ปีสากลแห่งตารางธาตุเคมี”
  • พ.ศ. 2564-2573 เป็น “ทศวรรษสหประชาชาติสำหรับการฟื้นฟูระบบนิเวศ”
  • พ.ศ. 2561 เป็น “ปีครบรอบ 70 ปีปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน”

สำหรับวันปลอดขยะสากล (International Day of Zero Waste) มีชื่อเล่นอย่างย่อว่า “IDZW” เกิดจากมติที่ประเทศตุรกีและสมาชิกอีก 105 ประเทศเป็นผู้สนับสนุน โดยเป็นการขยายผลจากโครงการปลอดขยะที่เริ่มต้นในตุรกีเมื่อ พ.ศ. 2560 และสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อยุติมลพิษจากพลาสติกเมื่อ พ.ศ. 2565 เมื่อเทียบกับบรรดาวันสากลอื่น วันปลอดขยะสากลถือเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา ในเอกสารเป็นทางการไม่ได้ระบุสาเหตุที่เลือกวันที่ 30 มีนาคม แต่อาจคาดเดาได้ว่าพิจารณาเลือกจากปฏิทินที่พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกจับจองเป็นวันสากลอื่นไปแล้ว

หัวข้อหลักประจำปี

ตั้งแต่ พ.ศ. 2566 เป็นต้นมา สหประชาชาติส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการรณรงค์ประจำปีของวันปลอดขยะสากล มีผู้คนเข้าร่วมนับล้านคนตั้งแต่ปีแรก โดยเริ่มต้นที่การมุ่งเป้าไปยัง “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2573” (2030 Agenda for Sustainable Development) ซึ่งวันปลอดขยะสากลตอบสนองเป้าหมายสองข้อจากทั้งหมด 17 ข้อ ได้แก่  เป้าหมายที่ 11 (SDG11) ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และยั่งยืน และเป้าหมายที่ 12 (SDG12) สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ส่วนใน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เริ่มมีการสร้างหัวข้อรณรงค์ที่จำเพาะเจาะจงขึ้น ได้แก่ “Let’s all work together to build a world where waste is minimized, resources are valued, and our planet thrives” และ “Towards zero waste in fashion and textiles” ตามลำดับ

พ.ศ. 2568 ถือเป็นปีแรกที่มุ่งเป้าเจาะจงไปที่ขยะในกลุ่มแฟชั่นและสิ่งทอโดยตรง โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) รายงานว่า กลุ่มดังกล่าวมีส่วนแบ่งการเป็นต้นกำเนิดมลภาวะที่พบได้ในโลกดังนี้  ปล่อยแก๊สเรือนกระจกราวร้อยละ 2-8 สร้างมลพิษไมโครพลาสติกในมหาสมุทรถึงร้อยละ 9 นอกจากนี้ยังใช้น้ำถึงปีละ 215 ล้านล้านลิตร และใช้สารเคมีราว 15,000 รายการ หากเราช่วยกันเพิ่มจำนวนครั้งที่ใส่เสื้อผ้าให้นานขึ้นก่อนที่จะทิ้งเป็นสองเท่าจะช่วยลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกในส่วนนี้ลงได้ถึงร้อยละ 44

ค่านิยมใหม่จาก 0 สู่ ∞

มีวันสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เรารู้จักและรณรงค์กันมานานอยู่ในปฏิทินตลอดทั้งปี ได้แก่ วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (2 กุมภาพันธ์) วันอนุรักษ์น้ำโลก (22 มีนาคม) วันคุ้มครองโลก (22 เมษายน) วันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ (22 พฤษภาคม) วันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิถุนายน) วันทะเลโลก (8 มิถุนายน) วันสากลอากาศสะอาดเพื่อท้องฟ้าสดใส (7 กันยายน) วันดินโลก (5 ธันวาคม) นอกจากนี้ยังมีวันที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตเป็นกลุ่มหรือชนิดอีก ได้แก่ ทูน่า (2 พฤษภาคม) นกอพยพ (10 พฤษภาคม) สุขภาพพืช (12 พฤษภาคม) ผึ้ง (20 พฤษภาคม) มันฝรั่ง (30 พฤษภาคม)

สำหรับวันปลอดขยะสากลอาจเป็นน้องใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในการรับรู้ของสังคม แต่นำเสนอแนวคิดที่แปลกใหม่กว่าเดิม จากที่เป็นเพียงการรณรงค์ทางสิ่งแวดล้อมเพื่อลด-ละ-เลิกแหล่งกำเนิดมลพิษหรือเพื่อสร้างเสริมสิ่งที่ดี ชื่อของวันปลอดขยะสากลในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “zero” หรือเลขศูนย์[2] นำเสนอแนวคิดของความยั่งยืนเพื่อยุติการผลิตขยะโดยสิ้นเชิงและนำไปสู่วิถีการบริโภคที่หมุนเวียนได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ ∞ คือ หมุนเวียนเป็นวัฏจักรได้อย่างอเนกอนันต์ไม่มีวันหมดสิ้นไปได้ จากระบบเดิมที่แม้พยายามลด-ละ-เลิกการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดลง ก็ยังมีวันที่ทรัพยากรจะหมดไปได้อยู่ดี แต่หากเปลี่ยนมาใช้แนวคิดตามเป้าหมาย SDG12 ซึ่งเป็นรูป ∞ ได้แล้ว หมายความว่าทรัพยากรจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนตลอดไปเพราะมีการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด แนวคิดนี้นำมาใช้ในอุตสาหกรรมแล้ว ก่อให้เกิดนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ออกสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง

เริ่มต้นที่ตัวเรา

ระหว่างที่รอผลิตภัณฑ์ใหม่จากเอกชนหรือรอให้ภาครัฐออกกฎระเบียบหรือมาตรฐานเพื่อกำกับดูแลให้เข้าที่เข้าทาง ผู้บริโภคทุกคนสามารถช่วยกันส่งเสริมค่านิยม “ปลอดขยะ” ได้ด้วยตนเอง ทั้งจากที่บ้าน ที่ทำงาน และสถานศึกษา นักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวอเมริกันนามว่า บี จอหน์สัน ให้แนวคิด 5R ไว้ในหนังสือ Zero Waste Home: The Ultimate Guide to Simplifying Your Life by Reducing Your Waste ประกอบไปด้วย

  • Refuse ปฏิเสธสิ่งที่ไม่จำเป็น
  • Reduce ลดการใช้สิ่งที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้จริง ๆ
  • Reuse ใช้ซ้ำในสิ่งที่ใช้ซ้ำได้
  • Recycle นำเข้าสู่กระบวนการใหม่สำหรับสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธ ลด หรือใช้ซ้ำได้แล้ว
  • Rot (compost) ทำปุ๋ยหมักในส่วนที่เหลือจากข้อข้างต้น

จากผู้บริโภคสู่ผู้ลงทุน

นอกจากในฐานะผู้บริโภคแล้ว ทุกคนที่มีเงินออมและการลงทุนยังสามารถช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยดูข้อมูลการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Rating) ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อีกทางหนึ่งด้วย ในต่างประเทศกลุ่มผู้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสมาชิกอยู่อย่างน้อยในหนึ่งกองทุนเพราะมีกฎหมายบังคับ) สามารถร่วมกันเรียกร้องให้ผู้จัดการกองทุนเลือกลงทุนในบริษัทที่ดำเนินนโยบายสอดคล้องกับค่านิยมของกลุ่มผู้ลงทุนด้วยการลงชื่อในข้อเรียกร้องเป็นกลุ่มก้อน ทั้งเพื่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สงครามภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงประเด็นเพื่อความเท่าเทียมกันทางสังคมอื่นด้วย เสียงของคนตัวเล็กตัวน้อยที่มารวมกันนี้กลายเป็นเสียงที่นายทุนขนาดใหญ่ต้องรับฟัง

“วันปลอดขยะสากล” เพียงวันเดียวจาก 365 หรือ 366 วันในหนึ่งปีปฏิทิน คงไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ หากเราทุกคนไม่ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง การเริ่มต้นไม่ยากอย่างที่คิด ขอเพียงเริ่มตั้งคำถามว่าสิ่งทั้งหลายที่เข้ามาและออกไปในแต่ละวันนั้นมาจากไหนและจะไปต่อที่ไหน รวมถึงตั้งคำถามว่ากิจการที่ท่านได้ลงทุนหรือมีส่วนร่วมอยู่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมมากน้อยเพียงใด หากคำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในขอบข่ายที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่านเริ่มลงมือเลยตั้งแต่ “วันปลอดขยะสากล” ในปีนี้เป็นต้นไป


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • www.abc.net.au/news/2024-05-28/super-funds-investment-in-climate-wrecking-companies/103896304
  • www.npr.org/2022/01/11/1072207126/ethical-investing-with-esg-funds
  • www.internationaldays.org
  • www.un.org/en/observances/zero-waste-day
  • www.unep.org/technical-highlight/sustainable-fashion-take-centre-stage-zero-waste-day
  • www.unep.org/events/un-day/international-day-zero-waste-2025
  • https://unhabitat.org/international-day-of-zero-waste

[1] กิจกรรมรณรงค์หรือเฉลิมฉลองระดับนานาชาติไม่จำเป็นต้องมีที่มาหรือได้รับการยอมรับจากองค์การสหประชาชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในเดือนมีนาคมได้แก่ “เอิร์ทอาวเออร์” ซึ่งริเริ่มโครงการโดยกองทุนสัตว์ป่าโลก (Earth hour by World Wildlife Fund) ปัจจุบันมีผู้คนนับล้านคนร่วมกันแสดงพลังด้วยการปิดไฟฟ้าตั้งแต่ 20:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ใน ค.ศ. 2025 กำหนดให้ตรงกับวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม

[2] ปัจจุบันมีวันสากลสามวันที่ใช้คำว่า zero นอกจาก IDZW ได้แก่ International Day of Zero Tolerance to Female Genital Mutilation (6 กุมภาพันธ์) และ Zero Discrimination Day (1 มีนาคม)

About Author