ชมนก ชมไม้ ไหว้พระ ณ วัดพระธาตุดอยพระฌาน

เรื่องโดย นุรักษ์ จิตต์สะอ้าน


วันที่ 20 และ 21 กรกฎาคมนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา นอกจากจะเป็นวันหยุดยาวแล้ว ยังเป็นวันสำคัญทางศาสนาของไทยที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยส่วนใหญ่นิยมเข้าวัดไปทำบุญ ทำทาน ฟังเทศน์ ฟังธรรม ประกอบกิจกรรมทางศาสนา เพื่อความสุขและความเป็นสิริมงคล เมื่อพูดถึงวัด ก็พลันให้ผู้เขียนนึกถึงทริปน่าประทับใจทริปหนึ่งที่วัดพระธาตุดอยพระฌาน จังหวัดลำปาง เพราะเป็นทริปที่ไปแล้วได้ทั้งชมนก ชมไม้ ไหว้พระขอพร ครบจบในคราวเดียวกัน

วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศใต้ เป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร ขับรถไปเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ ใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงวัด เมื่อถึงวัดแล้วให้เลือกเลี้ยวรถเข้ามายังที่จอดรถภายในวัด เพื่อเตรียมตัวเดินขึ้นสู่ยอดเขา อันที่จริงแล้วทางวัดมีบริการรถสองแถวไว้คอยบริการพาญาติโยมขึ้นไปถึงยอดเขาเลย แต่ความตั้งใจของเราคือนอกเหนือจากการมาไหว้พระขอพรแล้ว จะต้องเที่ยวไปเรียนรู้ธรรมชาติไปด้วย จึงเลือกเดินขึ้นเขาด้วยแรงอันน้อยนิด เพื่อดูนกชมไม้ไปตามทางเดินขึ้นยอดเขา

จุดแรกหลังจอดรถแล้ว ควรไปไหว้พระองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในศาลาปฏิบัติธรรม พร้อมเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยพระฌานที่อยู่ด้านบนยอดเขา ทางเดินขึ้นเขาเป็นพื้นเทปูน ไม่ลำบาก เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จะเจอจุดแวะไหว้ขอพรที่ศาลาพระอุปคุต รอยพระพุทธบาท และพระปางปาลิไลยก์ (ปางป่าเลไลยก์) เดินต่อไปจนถึงบันไดนาค เป็นพญานาคสีขาว ดูเด่นเป็นสง่า พร้อมพาเราขึ้นไปสู่อุโบสถด้านบน

เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาก็เข้าไปไหว้พระประธานในอุโบสถ พร้อมพักเหนื่อยไปด้วยในตัว หายเหนื่อยแล้วเดินออกมาจะพบกับภาพตรงหน้าเป็นภาพภูมิประเทศของตำบลป่าตันที่มีแม่น้ำจางตัดผ่าน เป็นภาพพาโนรามามุมสูงที่สวยมาก ๆ

หลังจากดื่มด่ำกับวิวด้านนี้จนหนำใจแล้ว บนยอดเขาก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้เดินชมอีก เริ่มจากเดินไปไหว้สักการะพระธาตุซึ่งอยู่ด้านหลังอุโบสถ จากนั้นเดินผ่านศาลาพระพุทธ 5 พระองค์ เพื่อไปไหว้สักการะพระใหญ่ไดบุตสึ (พระรอดแห่งเมืองคามากุระ) ซึ่งจำลององค์มาจากวัดโคโตกุอิน ประเทศญี่ปุ่น บริเวณนี้มีรูปปั้นโทโทโระตัวอ้วนกลมและมุมสวย ๆ กลิ่นอายญี่ปุ่นให้แวะถ่ายรูปกันด้วย

เส้นทางลงเขาเป็นทางเดิม ที่ด้านล่างมีสิ่งน่าสนใจให้เดิมชมกันก่อนกลับ คือ เจดีย์จุฬามณีศรีโพธิญาณ ซึ่งก่อนข้ามธรณีประตูเข้าไปยังองค์พระเจดีย์ มีรูปปั้นของพญาปุริสาทอยู่ 2 ตน โดดเด่นโชว์ความดุดันและมัดกล้ามอันน่าเกรงขาม อยู่ด้านหน้าซุ้มประตู รูปปั้นนี้เป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่บ้าง แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าสิ่งนี้เป็นศิลปกรรมร่วมสมัยที่ก็ดูสวยงามในเชิงงานปั้น เมื่อเดินต่อไปยังบริเวณด้านในห้องใต้ฐานพระเจดีย์ จะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระวิสุทธิเทพแก้ว ซึ่งแกะสลักมาจากอะคริลิก สวยงามวิจิตรบรรจงมาก

แม้จะเป็นทริปสั้น ๆ ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงในการเดินขึ้นไปไหว้พระและเดินลงจากเขา แต่ก็เรียกว่าคุ้มค่าครับ ได้ไหว้พระอิ่มบุญแล้วยังได้เรียนรู้ธรรมชาติ ได้เห็นต้นไม้และสัตว์ป่านานาพันธุ์ ระหว่างทางหากสังเกตรอบด้านก็จะเห็นพรรณไม้หลายชนิด เช่น สัก ประดู่ ขึ้นปะปนอยู่กับเต็ง ยางพลวง ผสมกับไผ่หลากหลายชนิด ซึ่งพอจะบอกให้เรารู้ได้ว่าพื้นที่ป่าแถวนี้เป็นป่าเบญจพรรณกึ่ง ๆ เต็งรัง เช่นเดียวกับพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในจังหวัดลำปาง

นอกจากพรรณไม้แล้ว ยังมีโอกาสได้พบเจอนกหลายชนิดอีกด้วย อย่างวันที่ผู้เขียนเดินทางไปนั้นเจอนกอยู่เกือบ 20 ชนิด แต่ด้วยความที่มุมไม่อำนวยบ้าง จังหวะไม่ดีบ้าง จึงถ่ายรูปมาได้แค่ 5 ชนิด คือ ไก่ป่าตุ้มหูแดง (red junglefowl) นกจาบดินอกลาย (puff-throated babbler) นกเฉี่ยวดงธรรมดา (common woodshrike) นกกินปลีดำม่วง (purple sunbird) และนกแซงแซวสีเทา (ashy drongo)

หากวันหยุดยาวนี้คุณผู้อ่านยังไม่มีแผนว่าจะไปทำบุญหรือไปเที่ยวที่ไหน ลองพิจารณาไปไหว้พระขอพรพร้อมชมธรรมชาติงาม ๆ ที่วัดพระธาตุดอยพระฌาน จังหวัดลำปาง กันดูได้นะครับ

About Author