ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด ทำให้เกิดผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของประเทศ ในการรับมือและการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศได้นำเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้าน “การวิจัยและพัฒนา” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สำหรับประเทศไทยได้มีการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2555-2559) มีเป้าหมายคือการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ดังนั้นการสร้างรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างสมดุลและเหมาะสมเกิดประโยชน์สูงสุด ต่อการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาชน และชุมชนท้องถิ่น ต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดระบบการวิจัยของประเทศที่เข้มแข็ง มีความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นการประยุกต์ผลจากการวิจัยและการสร้างมูลค่าเพิ่ม ไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้ครอบคลุมทุกมิติที่เกี่ยวข้อง |