การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เริ่มแพร่เข้าสู่ประเทศไทยในช่วงต้นปี 2563
มีการติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รัฐบาลต้องประกาศปิดประเทศ งดรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
ตลอดจนการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อที่มีการติดเชื้อเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาวะเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงทางสุขภาพ เศรษฐกิจโลกหดตัว
รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
ในขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2564 มีการชะลอตัวสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเริ่มมีประสบการณ์และสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น เกิดโอกาสทางธุรกิจจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากกระแสความนิยมทางด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคทั่วโลกและประเทศไทยในปัจจุบันให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น จนทำให้พฤติกรรมในการบริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพและความงามมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้ ในช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งไทยส่งออกเครื่องสำอางอันดับ 2 อาเซียน ตลาดเครื่องสำอางในกลุ่มสกินแคร์ในประเทศไทยเติบโตดีมาตลอด แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้ตลาดลดลงแต่ยังคงทรงตัว และคาดว่าจะกลับมาได้รับความนิยมเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม เนื่องจากโรคระบาดทำให้คนเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพและความงามมากขึ้น อีกทั้งจากการส่งเสริมของภาครัฐที่ได้ผลักดันผลงานวิจัยด้านนวัตกรรมทางด้านสุขภาพและความงาม และการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup) ในการนำผลงานเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์มากขึ้น ประกอบกับการมีจุดแข็งจากโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงทั้งกระบวนการผลิตและเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามของไทยจะสามารถขยายตัวขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามเป็นสินค้าที่สามารถพัฒนาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งการมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมทั้งกลไกออกฤทธิ์ของสารออกฤทธิ์และผลิตภัณฑ์ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนประสิทธิภาพของสินค้า ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับสารออกฤทธิ์และผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และเป็นปัจจัยที่ทำให้อุตสาหกรรมเวชสำอางประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้ง ในปัจจุบันมีการนำสารสกัดธรรมชาติจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมาใช้เป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์สุขภาพกลุ่มผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์และเวชสำอางมากขึ้น ซึ่งสารสำคัญต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์ที่ได้มาตรฐาน ประเมินคุณสมบัติทั้งทางกายภาพ เคมี และทางชีวภาพ เพื่อให้ทราบถึงการออกฤทธิ์ต่อร่างกาย การพัฒนาต่อยอดในรูปแบบของอนุภาคห่อหุ้มเพื่อการกักเก็บในระดับนาโนเมตร เป็นกระบวนการที่สำคัญในการควบคุมปริมาณการกักเก็บและการปลดปล่อยสารสำคัญได้ตรงกับเซลล์เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำมาประยุกต์ให้เหมาะกับการนำไปใช้ในระบบของการนำส่งทางผิวหนังทั้งในรูปแบบของเภสัชภัณฑ์และเวชสำอาง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนานวัตกรรมระบบนำส่งด้วยเข็มขนาดไมโครเมตร ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนการใช้เข็มธรรมดาทั่วไปในนำส่งสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยเหี่ยวย่น และรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทางการแพทย์และความงามมากขึ้น ซึ่งนวัตกรรมด้านสุขภาพและความงามดังกล่าวสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจด้านสุขภาพและความงามในประเทศไทย รวมทั้ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ