ผลงานวิจัยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน พบว่า อุณหภูมิของทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้นอย่างมาก ทำให้ธารน้ำแข็งทางตะวันตกของทวีปละลายเร็วขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%

วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า ผลงานวิจัยล่าสุดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ระบุอุณหภูมิของทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจ ทำให้ธารน้ำแข็งทางตะวันตกของทวีปละลายเร็วขึ้นกว่าปกติ และอาจเป็นสาเหตุของการเพิ่มสูงของระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%

นายเดวิด บรอมวิช หนึ่งในคณะผู้วิจัยจากศูนย์วิจัยขั้วโลก เบิร์ด แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ถึงผลการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารธรณีศาสตร์ว่า ทีมงานอาศัยการวิเคราะห์ และหาค่าเฉลี่ยอุณหภูมิบริเวณทวีปแอนตาร์กติการะหว่างปี 2501-2553 ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่า อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.4 องศาเซลเซียส  มากกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกถึง 3 เท่า ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ธารน้ำแข็งบริเวณฝั่งตะวันตกของทวีปแอนตา ร์กติกา ที่มีความหนา 4 กิโลเมตร ละลายเร็วขึ้นกว่าปกติ และส่งผลต่อเนื่องต่อการเพิ่มระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%

แม้ผลวิจัยที่ออกมาจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลเพียงเบื้องต้น แต่บรอมวิชเชื่อว่า หากไม่มีการตรวจสอบ และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจังเสียตั้งแต่บัดนี้ ธารน้ำแข็งจะละลายมากขึ้นอีกในอนาคต และทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอีกจนไหลเข้าท่วม และสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ชายฝั่งอย่างแน่นอน

รายงานของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ว่าด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก เผยแพร่เมื่อปี 2550 ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลบนโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 18-59 เซนติเมตร ภายในปี 2643 ขณะที่ผลการศึกษาของสภาวิจัยแห่งสหรัฐ เปิดเผยเมื่อเดือนมิ.ย. ระบุการคาดการณ์ระดับน้ำทะเล ว่าอาจสูงกว่าระดับที่ยูเอ็นประเมินไว้ 2-3 เท่า สาเหตุจากการที่ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้น

รายการอ้างอิง :

ผลวิจัยชี้ทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้น-น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น. เดลินิวส์ (ต่างประเทศ). วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2555.