หลายครั้งที่เราขึ้นรถไฟฟ้าแล้วเห็นป้ายโฆษณา หรือเปิดหน้านิตยสาร หรือพลิกดูบรรจุภัณฑ์สินค้าต่างๆ เช่น ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ก็จะพบเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ที่เป็นกรอบสีดำๆ หน้าตาประหลาดๆ ซึ่งเรียกว่า “คิวอาร์โค้ด” หรือบาร์โค้ด 2 มิติ ซึ่งกลายเป็นสื่อใหม่ทางการตลาด ที่เอื้อให้ผู้บริโภคติดต่อสื่อสารกับเจ้าของสินค้าและบริการได้อย่างรวด เร็ว เพียงแค่เอามือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จ่อไปที่สัญลักษณ์ ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าบริการเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น การเข้าไปร่วมเล่นเกมชิงรางวัล เป็นต้น
แต่คงมีไม่กี่คนที่ทราบว่า กว่าจะมาเป็นสัญลักษณ์ไฮเทค วิวัฒนาการแรกของ คิวอาร์โค้ด ก็คือ บาร์โค้ด หรือรหัสแท่งซึ่งยังมีการใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ นึกภาพง่ายๆ ก็คือ ทุกครั้งที่เราเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า แล้วแคชเชียร์ จะพลิกหาเครื่องหมายหรือสติกเกอร์เล็กๆ ที่มีขีดเส้นๆ ปรากฏอยู่ เพื่อไปสแกนกับเครื่องคิดเงิน นั่นแหละคือ การอ่านบาร์โค้ด เพื่อจะได้ทราบข้อมูลสินค้า และราคา รวมถึงยังง่ายต่อการตัดสต็อกสินค้าที่ถูกจำหน่ายออกไปแล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 60 ปี ของการถือครองสิทธิบัตรบาร์โค้ด ที่มีการยื่นขอในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2495 อย่างไรก็ตาม ในการนำมาใช้งานจริงเริ่มขึ้นหลังจากนั้น 22 ปี เพราะรอความพร้อมของเทคโนโลยีการอ่านแถบรหัสบาร์โค้ด โดยการใช้บาร์โค้ดครั้งแรก เริ่มใช้กับการสแกนบาร์โค้ด แถบด้านข้างของหมากฝรั่งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา
และในปีที่เวียนมาครบ 5 รอบของการถือกำเนิดนี้ ก็มีการใช้งานบาร์โค้ดอยู่มากกว่า 5 ล้านบาร์โค้ดทั่วโลกแล้ว และจากเป้าหมายใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้บาร์โค้ด ไม่ได้รับผลกระทบจากความโมเดิร์นของวิวัฒนาการรุ่นหลานอย่าง คิวอาร์โค้ด
รายการอ้างอิง :
คนชอบเล่า. เส้นทาง 60 ปี ‘บาร์โค้ด’. คมชัดลึก (คอลัมน์อินโนเทค). วันที่ 14 ตุลาคม 2555.
– ( 127 Views)