“โรคฟันผุ” ตัวการสำคัญของเรื่องนี้คือ แบคทีเรียที่ชื่อว่า Streptococcus mutans ซึ่งเป็นหนึ่งในแบคทีเรียกว่า 600 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในช่องปากของมนุษย์เรา (ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะนี่) เจ้าแบคทีเรียชนิดนี้มีชีวิตเจริญเติบโตได้ด้วยการกินแป้งและน้ำตาลในปากเป็นอาหาร จากนั้นจะทำการผลิตกรดที่เรียกว่า “กรดแลคติก” ออกมาเป็นผลพลอยได้ ซึ่งเจ้ากรดแลคติกนี้มีอิทธิฤทธิ์ในการทำลายล้างเจ้าสารเคลือบฟันทำให้เกิดฟันผุและสึกกร่อนทำให้ผิวเนียนๆ ของเนื้อฟันนั้นเกิดเป็นรูขึ้น
Streptococcus mutans ไม่เพียงแต่กินน้ำตาลเท่านั้นแต่ยังชอบกินแป้งด้วย อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างทันท่วงทีเมื่อมนุษย์เราบริโภคเข้าไปเพราะต้องผ่านการย่อยให้เป็นน้ำตาลก่อน ด้วยกระบวนการเหล่านี้อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต จึงส่งผลเสียให้กับฟันของเรามากกว่าน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลสามารถละลายได้ทันทีเมื่อโดนน้ำลาย แต่อาหารจำพวกแป้งที่สุกแล้วอย่าง “มันฝรั่งทอด” จะตกค้างอยู่ในปากและฟันได้ยาวนานกว่าเจ้า Streptococcus mutans จึงมีเวลาในการกินมากขึ้นและเมื่อมีการกินแล้วก็จะมีผลพลอยได้จากการกินของแบคทีเรีย คือการผลิต “กรดแลคติก” ออกมา และยิ่งมีเวลาให้เจ้าแบคทีเรียกินมากแค่ไหนได้กรดแลคติกก็จะมีมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเพื่อสุขภาพของปากและฟันที่แข็งแรงเราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรืออาจจะเพิ่มเป็น 3 ครั้งคือหลังจากรับประทานอาหารกลางวันด้วยก็จะเป็นการดูแลสุขอนามัยในช่องปากให้มีสุขภาพที่แข็งแรง
แหล่งที่มา : สิรินทร์ จ่างรัตศศพินทุ. “มันฝรั่งทอดทำให้ฟันผุมากกว่าน้ำตาล”. plook. 22 : หน้า 17 : ตุลาคม 2555.– ( 145 Views)