เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและด้านเกษตร มีแนวคิดและมุมมองที่กว้างไกล เกี่ยวกับสถานการณ์เรื่องข้าว  น้ำ รวมถึงการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ พร้อมสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสู่ความยั่งยืนต่อไป และกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ สำนักโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สสท.), สภาวิทยาศาสตร์และการเกษตรแห่งประเทศจีน และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดสัมมนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ครั้งที่ 10 เรื่อง “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน” ที่ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงร่วมฟังการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญจีนในหัวข้อต่าง ๆ          ภายหลังทรงเปิดงาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรนิทรรศการผลการแสดงศักยภาพของเด็กด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ได้บูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2523 ให้สถานศึกษาเป็นศูนย์กลางการพัฒนา,โครงงานการส่งเสริมปลูกข้าวของโรงเรียน พระปริยัติธรรม จ.น่าน ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนากับสาธารณรัฐประชาชนจีนในการถ่ายทอด เทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางการเกษตร การปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทนน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขัง 15-21 วัน ตลอดจนการดำเนินงานสถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติจีน และสถาบันวิจัยพืชผักและดอกไม้ของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมบรรยายเรื่อง “เสริมสร้างศักยภาพเด็กด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างรากฐานของการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน” ทรงเล่าถึงประสบการณ์การทรงงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารกว่า 30 ปี ว่า ทรงเน้นให้โรงเรียนสอนเด็กเรียนรู้และปฏิบัติสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้จำได้และทำได้ โดยมีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาเด็กและชุมชนพัฒนาไปพร้อมกัน นอกจากนี้ทรงเน้นการปลูกฝังเจตคติด้านวิทยาศาสตร์ให้แก่เด็ก เพราะการเสริมสร้างศักยภาพของมนุษย์ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งช่วยให้เด็กมีความใฝ่รู้และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม กับบริบทท้องถิ่นของตัวเอง ปัจจุบันเด็กที่ได้รับการพัฒนาตั้งแต่รุ่นแรกต่างมีหน้าที่การงานที่ดี ประกอบอาชีพรับราชการ หมอ พยาบาล วิศวกร นักกฎหมาย ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ การเป็นแม่บ้านที่ดีคอยเลี้ยงดูลูก ๆเป็นต้น ซึ่งล้วนแต่สามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดจนเกิดประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็เป็นความหมายของการพัฒนาการศึกษาของเด็กในชนบทอย่างยั่งยืน แล้ว

รายการอ้างอิง :
ทรงเน้นพัฒนาเด็ก-ชุมชนต่อยอดความรู้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี. เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556.– ( 56 Views)