ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการนาโนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องกลจุลภาค ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เมธีวิจัย สกว.
ช่วงนี้ไม่มีข่าวไหนที่น่าสนใจเท่ากับวิกฤติพลังงานไฟฟ้า ตามที่เป็นข่าวว่าทางพม่าจะหยุดส่งก๊าซชั่วคราวเพื่อปิดซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซ ที่มายังประเทศไทย จากข่าวนี้ทำให้หลายคนตื่นตัวในเรื่องการใช้พลังงานอย่างประหยัด ทางการก็ออกนโยบายประหยัดพลังงานในสถานที่ราชการ และขอความร่วมมือให้โรงงานอุตสาหกรรมช่วยกันหาทางประหยัดพลังงาน ทั้งหมดก็เพื่อให้ประชาชนอย่างเราได้ใช้ไฟฟ้าอย่างฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมเช่น นั้นหรือ? เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำรงชีวิตประจำวันของเราอย่างนั้นหรือ?
ความจริงเราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม และมีส่วนช่วยให้ผ่านวิกฤติพลังงาน ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในวิกฤติพลังงานครั้งใหญ่ที่จะตามมาในอนาคตอันใกล้ เพราะเราไม่เคยวางแผนการผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ นอกจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปมาผลิต ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน และน้ำจากเขื่อน
ดังนั้น ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด จึงทำให้เราต้องพึ่งพาทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงเป็นปัญหาที่เรียกว่า “ความมั่นคงทางพลังงาน” ซึ่งทางออกของเรื่องนี้ก็มีหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งพลังงานทดแทน หรือ alternative energy รวมถึงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยประหยัดและลดการใช้พลังงานด้วย
วันนี้ เรามาอัพเดทเทคโนโลยีเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานแบบอัจฉริยะ คือแบบที่ใช้เทคโนโลยีที่ฉลาดๆ เพื่อทำให้การประหยัดพลังงาน เป็นการประหยัดสตางค์ในกระเป๋าของเราอย่างแท้จริง ที่พูดแบบนี้เพราะมีเทคโนโลยีมากมายที่ผ่านมาช่วยประหยัดพลังงานได้ก็จริง แต่มีต้นทุนและการลงทุนที่แพง ทำให้รู้สึกสงสัยว่ามันคุ้มค่าจริงหรือไม่
เริ่มต้นด้วยล่าสุดมีแนวคิดง่ายๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านหรือออฟฟิศนั่นก็คือ Thermostat ติดตั้งอยู่ที่ผนังบ้านหรือ ในกรณีสำนักงานที่มีระบบทำความเย็น ซึ่งปกติเราจะตั้งให้คงที่ที่อุณหภูมิหนึ่งๆ เช่น 25 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิในห้องสูงกว่าค่านี้ ระบบปรับอากาศก็จะทำงาน แต่เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าค่าที่ตั้ง ระบบก็จะหยุดการทำงาน
อุปกรณ์ Thermostat ถูกคิดค้นมาตั้งหลายสิบปี และส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ความจริงมันยังไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด จึงมีผู้ผลิต Thermostat อัจฉริยะชื่อว่า Nest ถูกออกแบบโดยวิศวกร ผู้เคยสร้าง iPod และ iPad ของ Apple โดยอาศัยแนวคิดที่ว่า The Learning Thermostat เพราะมันเรียนรู้ได้ว่า เวลาไหนเราจะอยู่บ้าน เวลาไหนเราออกนอกบ้าน มันจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย และช่วยลดการทำงานของระบบปรับอากาศของบ้านหรือออฟฟิศ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของบ้านได้มากถึงร้อยละ 20
นอกจากนี้ เราสามารถสั่งให้มันทำงานจากแอพบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย ราคาก็ไม่แพงประมาณ7,500 บาท นวัตกรรมดีๆอย่างนี้สิถึงจะน่าใช้และประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้จริง
รายการอ้างอิง :
ดร.อดิสร เตือนตรานนท์. ประหยัดสไตล์อัจฉริยะ. (เทคโนโลยีปริทรรศน์). กรุงเทพธุรกิจ. ฉบับวันที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2556.– ( 99 Views)