รัฐบาลโอบามาได้ประกาศเพิ่ม ปริมาณเเป้าหมายของนักเรียนที่จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ให้เป็นจำนวนหนึ่งล้านคนในหนึ่งทศวรรษ และกำหนดเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่ชื่อว่า Cross-Agency
Priority (CAP) goal ซึ่งมุ่งเน้นในการประสานงาน และสนับสนุน หาวิธีการที่ดีที่สุดจากทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วม เพื่อทำภารกิจให้
เสร็จสมบูรณ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ การออกมาประกาศแสดงให้เห็นถึง ความตั้งใจที่จะทำตามคำแนะนำของสภาที่ปรึกษาฯ ของ
ประธานาธิบดีว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประเมินว่า ปริมาณงานทางด้าน STEM จะเติบโตเร็วกว่าด้านอื่นถึง 1.7 เท่า ในช่วงปี ค.ศ.2008-2018 และ
เพื่อที่จะมีแรงงานเพียงพอ สหรัฐฯต้องการผู้มีทักษะทาง STEM เพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งล้านคน นอกจากนี้ การมุ่งเน้นในการรักษาจำนวน
นักเรียนในช่วงปีแรกของการเรียนในภาควิชาด้าน STEM จะมีความสำคัญมาก เพราะในปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนด้าน STEM
ตั้งแต่ต้น และสำเร็จการศึกษาในสาขา STEM ไม่ถึงร้อยละ 40 หากยังคงรักษาจำนวนนักเรียนไว้ได้ร้อยละ 50 จะสามารถผลิตนักเรียน
ที่จบด้าน STEM ได้ถึง 3 ใน 4 ของเป้าหมายหนึ่งล้านคนในเวลาหนึ่งทศวรรษ หรือประมาณ 75,000 คนต่อปี
การเตรียมการส่วนใหญ่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของรัฐบาล รายละเอียดหลักการของ CAP goal สามารถสรุปได้ดังนี้
- กำหนดแนวทางและนำการปฏิบัติจริงมาพัฒนาการสอนด้าน STEM และทำให้นักเรียนมีความสนใจด้าน STEM มากขึ้น
- เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเรียน การสอน STEM จากการค้นคว้าโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีแรกในการเรียนระดับ
มหาวิทยาลัย
- เน้นการปรับปรุงพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เมื่อนักเรียนเข้ามา โดยใช้การเรียนจากการปฏิบัติจริง เพื่อเพิ่มผลลัพท์
- เปิดโอกาสทางการศึกษา และสนับสนุนผู้หญิงและคนกลุ่มน้อยที่ไม่ค่อยมีโอกาสทางการเรียน ค้นหาและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม
ในการศึกษาที่ก้าวหน้ามากขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.nstda.or.th/nstda-doc-archives/doc_download/1153—-12556
– ( 53 Views)