ลืม! Password หรือรหัสผ่าน เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเคยประสบมาแล้วแน่นอน อะไรๆ ก็ต้องใส่รหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัยจากผู้ไม่ประสงค์ดีทั้งหลาย และยิ่งมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมทั้งสมาร์ทโฟนหลายเครื่อง ยิ่งต้องจำหลายรหัส และเมื่อเรายิ่งมีหลากหลายบัญชี ไม่ว่าจะเป็น บัญชีสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม บัญชีธนาคารออนไลน์ บัญชีซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ยิ่งทำให้เราต้องจำรหัสผ่านมากมาย
ผมเชื่อว่า หลายคนอาจจำเป็นต้องใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายบัญชี หรือไม่ก็ใช้รหัสผ่านจากข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบ้านเลขที่ ทำให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถเดารหัสผ่านของเราได้โดยง่ายถ้ารู้ข้อมูลส่วนตัว มิหนำซ้ำบางคนใช้รหัสผ่านยอดนิยม เช่น 12345 iloveyou หรือแม้กระทั่งใช้คำว่า password เป็นรหัสผ่าน
ผมยอมรับว่า ผมก็เป็นคนที่ขี้ลืมคนหนึ่ง มักจะลืมรหัสผ่านตลอดเมื่อเปลี่ยนรหัสเป็นรหัสใหม่ ดังนั้น ปัญหาเรื่องของการจดจำรหัสผ่านจึงต้องการการแก้ปัญหาโดยด่วน และเทคโนโลยีที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ก็มาจากบริษัทผู้สร้างบัญชีผู้ใช้ (User Account) มากที่สุดในโลกนั่นเอง นั่นคือ Google นั้นเอง
Google ทดลองวิจัยหาทางที่เราจะเข้าสู่บัญชีผู้ใช้งาน โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน หนึ่งใน ไอเดียที่น่าจะได้ผลมากที่สุดก็คือ การใช้กุญแจหรือ Key ผมหมายถึงกุญแจจริงๆ ไม่ใช่กุญแจรหัส แต่มันมาในรูปแบบเหมือน USB thumb drive เมื่อเราเสียบเข้ากับยูเอสบีพอร์ต มันจะส่งข้อมูลเข้ารหัสลับไปตรวจสอบออนไลน์ เพื่อเช็คว่าตรงกับที่เคยกำหนดไว้หรือไม่
แน่นอนว่าข้อมูลเข้ารหัสนี้จะไม่ถูกเก็บไว้ในเครื่อง ดังนั้น จึงไม่สามารถก็อปปี้เอาไว้ได้ นอกจากรูปแบที่เหมือนธัมป์ไดร์ฟ ยังมีการออกแบบให้เป็นเครื่องประดับลักษณะเป็นแหวนมีค่า เพื่อสวมใส่ติดตัวตลอดเวลา
ความจริงไม่เพียงแต่วิศวกรของ google ที่วิจัยในเรื่องนี้เท่านั้น ทาง PayPal และ Lenovo ก็ได้ร่วมมือกันในเรื่องนี้ โดยร่วมมือกับผู้ผลิตชิปชื่อดังอย่าง Infineon ตั้งเป็น FIDO Alliance (ข้อมูลเพิ่มเติมที่ fidoalliance.org) ทดลองใช้ระบบป้อนรหัสผ่านโดยใช้การสแกนลายนิ้วมือบนคอมพิวเตอร์ และทำการตรวจสอบข้อมูลกับชิปที่ถูกฝังไว้ภายในเครื่อง ร่วมกับการใส่รหัสผ่านตามปกติ เรียกว่า Two Factor Authentication
วิธีนี้ทำให้เราปลอดภัยจากการขโมยรหัสผ่าน เพราะโดยทั่วไปรหัสผ่านของเราจะถูกส่งไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ใน คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ ดังนั้น ระหว่างทางจึงสามารถถูกแฮกค์ได้ แต่ด้วยวิธีการใหม่ตามที่กลุ่ม FIDO นำมาใช้ รหัสผ่านจะไม่ถูกส่ง แต่จะถูกเช็คกับข้อมูลที่ฝังอยู่ในชิปบนเครื่อง เมื่อผ่านแล้วจึงส่งคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์และนำเข้าสู่ระบบต่อไป ดังนั้น จึงไม่มีใครขโมยรหัสผ่านของเราไปได้
ปัจจุบันกำลังทดลองระบบและคาดว่าจะนำมาใช้เร็วๆนี้ แน่นอน และต่อไป คนขี้ลืมอย่างผมก็คงจะสบายขึ้น แต่ก็ต้องมีกุญแจเพิ่มขึ้นอีกดอกในกระเป๋า แต่เป็นกุญแจอิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง
รายการอ้างอิง :
ดร.อดิสร เตือนตรานนท์. กรุงเทพธุรกิจ (เทคโนโลยีปริทรรศน์). ฉบับวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556.– ( 50 Views)