สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า ปริมาณการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ทในจีนอาจทะลุ 4.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า ทำให้จีนมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นตลาดการซื้อ-ขายสินค้าและบริการแบบออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

รายงานของ “แมคคินซีย์ แอนด์ โค” ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและให้คำปรึกษาด้านการตลาดชื่อดังของสหรัฐ ประเมินว่า จีนกำลังจะก้าวขึ้นครองตำแหน่งประเทศที่มีขนาดตลาดการค้าแบบออนไลน์ที่ใหญ่ ที่สุด ภายในปี 2563 ด้วยมูลค่าตลาดระหว่าง 4.2 -6.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13.02-20.15 ล้านล้านบาท ) เปรียบได้เท่ากับปริมาณตลาดการซื้อ-ขายสินค้าและบริการออนไลน์ของสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศสรวมกัน

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดการค้าทางอินเตอร์เน็ทของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.72 ล้านล้านบาท )  เมื่อปี 2554 มาเป็นระหว่าง 1.9-2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 5.89-6.51 ล้านล้านบาท ) เมื่อปีที่แล้ว มาจากการที่จีนเป็นประเทศที่มีประชากรใช้อินเตอร์เน็ทมากที่สุดในโลก หรือกว่า 500 ล้านคน และการที่รัฐบาลปักกิ่งเริ่มผ่อนคลายการตรวจสอบและควบคุมตลาดการค้าทาง อินเตอร์เน็ทของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการมีอิสระจากการอยู่ภายใต้ “เดอะ เกรท ไฟร์วอลล์” ที่เป็นกระบวนการตรวจพิจารณาการใช้งานอินเตอร์เน็ทของทางการ ที่ได้ชื่อว่าเข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

รายการอ้างอิง :
จีนกำลังจะเป็นตลาด “อี-คอมเมิร์ซ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก. เดลินิวส์ (ต่างประเทศ). วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2556.