ความอ้วนจะส่งผลเสียด้านบุคลิกภาพ ไปที่ไหนก็ขาดความมั่นใจ ยังเสี่ยงสารพัดโรค แต่ที่มองเห็นได้ชัดก็คือความผิดปกติของผิวหนัง
นอกจากความอ้วนจะส่งผลเสียด้านบุคลิกภาพ ไปที่ไหนก็ขาดความมั่นใจ ยังเสี่ยงสารพัดโรคตั้งแต่โรคข้อจนถึงมะเร็งบางชนิด แต่ที่มองเห็นได้ชัดก็คือความผิดปกติของผิวหนัง
ในปัจจุบันมีประชากรในประเทศไทย ที่กำลังประสบปัญหาภาวะน้ำหนักเกิน หรือเกิดปัญหาความอ้วนและกำลังจะเป็นโรคอ้วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพ เป็นที่ล้อเลียนในหมู่เพื่อนฝูง ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจและเป็นอันตรายแก่สุขภาพจิตแล้ว โรคอ้วนยังมีผลเสียโดยตรงกับผิวหนัง นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาหลายประการในผิวของผู้ป่วยโรคอ้วน
ผศ.พญ.ภาวิณี ฤกษ์นิมิตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะอนุกรรมการวิชาการ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคผิวหนังบางชนิดมักจะพบได้บ่อยในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของผิวหนังของผู้ป่วยโรคอ้วน มักจะมีการสูญเสียน้ำมากกว่าคนปกติ ทำให้เกิดอาการผิวแห้งแดงอักเสบได้ง่าย
หรือบางครั้งเมื่ออยู่ในที่อบอ้าว จะมีเหงื่อออกมาก เนื่องจากมีชั้นไขมันที่หนา ทำให้เกิดความอับชื้นบริเวณซอกพับของร่างกายได้มาก ทำให้การระบายของเสียกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตทางหลอดเลือดน้ำเหลืองไม่สะดวก เกิดมีเส้นใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ไม่แข็งแรง หากเป็นแผลจะทำให้แผลหายช้ากว่าคนปกติทั่วไป และยังพบว่ามีอัตราการไหลเวียนเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณไขมันมาก เส้นเลือดฝอยที่ผิวหนังหดและมีการขยายตัวที่ผิดปกติ
สำหรับโรคผิวหนังที่พบบ่อยในผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ดังนี้
- ผิวหนังจะเป็นปื้นดำหนาขรุขระดูคล้ายผ้ากำมะหยี่ พบบ่อยที่บริเวณซอกพับของร่างกาย บางครั้งจะมีติ่งเนื้อจำนวนมากบริเวณซอกพับ พบควบคู่ไปกับปื้นดำดังกล่าวข้างต้น เช่น รักแร้ หลังคอ ข้อพับแขน หากเป็นมากอาจพบที่บริเวณใดก็ได้ เช่น ใบหน้าและหลังมือ เรียกชื่อโรคว่า Acanthosisnigricans
- โรคขนคุด (Keratosis pilaris) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแข็งบนรูขน คลำแล้วรู้สึกผิวสาก ไม่เรียบ พบมากบริเวณแขนขาทั้งสองข้าง นอกจากนี้บางรายมีขนดก เส้นขนยาวขึ้นและมีสีเข้ม เป็นสิว ขนที่ดกขึ้นจะพบที่ใบหน้า หนวด ขนหน้าอก เป็นต้น แต่บริเวณศีรษะ ผมจะบางลง จะมีผิวแตกลาย เช่นเดียวกับที่พบในสตรีมีครรภ์ บริเวณหน้าท้อง บั้นท้ายและต้นขา ผิวหนังที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้างจะหนาและแข็ง เนื่องจากต้องรองรับนํ้าหนักตัวซึ่งมากกว่าปกติ
- โรคที่เกี่ยวกับเซลลูไลท์หรือผิวหนังขรุขระคล้ายเปลือกส้ม พบมากที่ต้นขา บั้นท้ายและหน้าท้องโรคอ้วนจะทำให้ผิวเปลือกส้มรุนแรงขึ้น
- โรคติดเชื้อบริเวณซอกพับ เช่น เชื้อราในร่มผ้าอันเนื่องมาจากความอับชื้น จะเกิดอาการผื่น ผิวหนังอักเสบที่ซอกพับ เช่น บริเวณขาหนีบใต้ราวนมเกี่ยวเนื่องจากการเสียดสีและระคายเคือง
- โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชนิดต่างๆ ตั้งแต่ต่อมขนอักเสบ ไปจนถึงติดเชื้อลามลึกเข้าไปยังเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
- โรคสะเก็ดเงินและโรคเก๊าท์ พบได้บ่อยในผู้ที่มีโรคอ้วน
อาการผิดปกติทางผิวหนังเหล่านี้ พบว่าเมื่อลดน้ำหนักแล้ว ส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้น เช่น ปื้นดำที่ผิวหนังจะบางลง ขนคุดราบลงได้บ้างโอกาสการติดเชื้อและผื่นผิวหนังอักเสบจากการเสียดสีจะลดลงได้มาก โดยสรุปความอ้วนนอกจากจะส่งผลร้ายกับระบบต่างๆ ภายใน เช่น เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูงแล้ว ผิวหนังซึ่งห่อหุ้มร่างกายอยู่ภายนอก ยังมีการเปลี่ยนแปลงได้มาก ดังนั้น การลดความอ้วนอย่างถูกวิธี ทำให้มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม จึงช่วยรักษาสุขภาพได้จากภายในสู่ภายนอกร่างกาย ส่งผลต่อเนื่องให้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
ครั้งหน้าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโรคผิวหนัง จะไขข้อสงสัยต่อเนื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีลดสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมัน เครื่องกระชับสัดส่วนและอาหารเสริมลดอ้วน
รายการอ้างอิง :
เมื่อความอ้วนมาป่วนผิว. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Life Style : สุขภาพ). วันที่ 27 มีนาคม 2556.
– ( 82 Views)