magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home การแพทย์/สาธารณสุข 8 คำถามรู้ทันวิตามิน
formats

8 คำถามรู้ทันวิตามิน

คำถามยอดนิยมที่เกี่ยวกับเรื่องของวิตามินใกล้ตัว

ทุกครั้งที่นั่งลงบนเก้าอี้พิธีกรก็จะทราบได้ว่าผู้ฟังมีคำถามกรุ่นอยู่ในใจ ยิ่งในรายการที่คุ้นเคยกันดีอย่าง “ถึงมือหมอ” ทางช่องไทยพีบีเอสยิ่งหายห่วงเลยครับ ท่านผู้ชมในห้องส่งบางท่านไลน์ถามกันสดๆ แทบจะเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องวิตามินและการกินเพื่อสุขภาพ
ยกตัวอย่างคำถามจี๊ดๆ ก็มี เช่น กินกาแฟแล้วกินวิตามินตามได้ไหม เป็นมะเร็งแล้วกินวิตามินนี้อันตรายไหม ทำไมจึงปรึกษาคุณหมอหลายท่านเกี่ยวกับเรื่องวิตามินไม่ค่อยได้ หรือไปตามโรงพยาบาลเอกชนบางที่แล้วทำไมต้องตรวจวิตามินแพงๆ หลายหมื่นบาท

คำถามที่เหล่านี้ทำให้ผม “ทึ่ง” มากครับ ในฐานะหมอด้านอายุรวัฒน์ก็ตั้งคำถามที่ว่านี้ไว้ในใจเหมือนกัน เวลาที่ไปเจอคนเขาเอาคำว่าอายุรวัฒน์ไปใช้ในเรื่องธุรกิจ เพราะที่จริงแล้วอายุรวัฒน์ ไม่ใช่เสริมสวย ไม่ได้ขายวิตามินและไม่ใช่เรื่องของการตรวจวิตามินหลายหมื่นบาทโดยไม่จำเป็น เพราะเราเน้นที่ให้ท่านเชื่อ “ตัวเอง” มากกว่าครับ
คำถามยอดฮิต “ชีวิตกับวิตามิน”

ตอนนี้ก็มาถึงคำถามยอดนิยมที่ได้รับมาจากท่านผู้ชมที่รักบ้างแล้วครับ เป็นเรื่องของวิตามินใกล้ตัว เท่าที่รวบรวมมาและเห็นว่าน่าจะตอบโจทย์หลายท่านได้มีอยู่ดังนี้ครับผม

1) ตรวจวิตามินจำเป็นจริงหรือ มีผู้ถามมากในระยะหลังด้วยเพราะโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งตั้งเกณฑ์การตรวจขึ้นมา มีราคาสูงมากเป็นหลักหมื่นถึงหลายหมื่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจในทุกคนนะครับ ขอให้เลือกตรวจสุขภาพแบบที่จำเป็นก่อน เช่น ตับ ไต หัวใจ ไขมัน มะเร็ง แต่การตรวจวิตามินนี่ถ้าปกติดี กินอาหารครบ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจครับ

2) จัดวิตามินเฉพาะบุคคล การจัดยารายบุคคลนี่ต้องระวังครับ เพราะจะเป็นยา “ทำเอง” นั่นคือทำกันในโรงพยาบาลเป็นห้องเล็กๆ ไม่ใช่โรงงานผลิตยาขนาดใหญ่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ยา “ทำเอง” พวกนี้จึงกินแล้วอาจรู้สึก “เฉยๆ” เท่านั้นแต่ที่สำคัญคือ “แพงมาก”

3) วิตามินชั้นดีต้องแพงเสมอไป ไม่จำเป็นเลยครับท่านที่รัก วิตามินที่ดีมีวิธีเลือกง่ายคือ เป็นธรรมชาติที่สุด ดูดซึมดีและมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่รวมอยู่ในเม็ดเดียวกันทุกวิตามินแต่กินเข้าไปมีแต่ “วิตามินสังเคราะห์” ทั้งนั้น

4) วิตามินจำเป็นหรือไม่ คำถามระดับโลกจริงๆ ซึ่งก็มีคำตอบให้คือ “แล้วแต่คน” ครับ เอาตัวอย่างง่ายๆ ก็ได้ ถ้าในคนที่อายุมากแล้วกินอาหารได้น้อย หรือกินได้มากก็ไม่ดูดซึมดีเหมือนคนหนุ่มสาว หากได้วิตามินเข้าไปช่วยก็จะดีขึ้นมากครับ แต่ในคนหนุ่มสาวที่กินได้ครบอยู่แล้ว อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกินวิตามินเสริม

5) วิตามินต้องเป็นของนอกถึงดี เช่นเดียวกับความคิดที่ว่าต้องไปโรงพยาบาลถึงจะดีกว่าคลินิกนั่นละครับ วิตามินไม่ว่าผลิตที่ไหน ถ้าผ่านกระบวนการตรวจสอบแบบที่ใช้กันเป็นมาตรฐาน และมีการศึกษารับรองก็ถือเป็นของดีที่รับประทานได้หมดครับ ไม่เหมือนกับวิตามินที่โรงพยาบาลอินเตอร์บางแห่งผลิตเองในห้องเล็กๆ แล้วก็จัดมา “เฉพาะบุคคล” อย่างนี้เสียอีกครับที่น่าจับตามองในเรื่องความแน่นอนของปริมาณและผลการรักษา

6) วิตามินกินแล้วสวยสั่งได้ วิตามินกินแล้วสวยไม่มีอยู่ในโลกครับ ย้ำ…ไม่มีอยู่จริงๆ ครับ แต่การกินวิตามินให้ “สุขภาพสวย” น่ะมีครับ นั่นคือเลือกรับประทานวิตามินร่วมกับอาหารสด เช่น กินวิตามินซีและน้ำมันปลาแล้วก็ต้องกินปลาสดกับผักสดด้วย อย่างนี้จะช่วยให้คุณ “ดูดี” ได้แน่ๆ

7) วิตามินลดอ้วนควรกินไหม ที่จริงแล้วไม่มี “วิตามินลดความอ้วน” มีก็แต่วิตามินที่ช่วยในกลไกการเผาผลาญของร่างกาย ยกตัวอย่าง แอล-คาร์นิทีน โคคิวเท็นหรือสารอาหารชนิดอื่นๆ อย่างสารสกัดชาเขียว จะไม่ช่วยรีดน้ำหนักได้เลย ตราบเท่าที่เรายังรับประทานเท่าเดิมและไม่ได้ออกกำลังกาย

8) วิตามินบำบัดขจัดมะเร็งได้ไหม การกินวิตามินให้รักษามะเร็งนั้นไม่ควรเลยครับ เพราะอย่าลืมว่ามะเร็งมีสาเหตุการเกิดร่วมกันหลายอย่าง ทั้งเรื่องพันธุกรรม ฮอร์โมนและความเครียด อีกมากที่มากระตุ้นมะเร็งให้งอกงามขึ้น ดังนั้น การรับประทานวิตามินสำหรับมะเร็งนั้นเป็น “ตัวช่วย” เท่านั้นครับ ขอท่านที่รักอย่าเพิ่งทิ้งทางหลักของการรักษาเป็นอันขาดทีเดียว

หากท่านที่รักมีคำถามสุขภาพที่สนใจและอยากได้คำตอบง่ายๆ สไตล์อายุรวัฒน์ก็ต่อขอให้ติดตามได้ทางรายการ “ถึงมือหมอ” ทุกวันพุธเวลา 17.10 น.ทางช่องไทยพีบีเอสครับ

รายการอ้างอิง :
นพ.กฤษดา ศิรามพุช. 8 คำถามรู้ทันวิตามิน. กรุงเทพธุรกิจ (Life Style : สุขภาพ). วันที่ 26 มีนาคม 2556.– ( 169 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


eight − = 7

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>