การพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางเพื่อเข้าสู่ AEC โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหนึ่งในหัวข้อการบรรยายหัวข้อหนึ่งที่จัดในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 9 (NAC 2013) เรื่อง ความพร้อมสู่ AEC ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Towards AEC with Science and Technology) ในช่วงระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 3 เมษายน 2556 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี สรุปเนื้อหาการบรรยายได้ดังนี้
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เวชสำอาง มีผู้ประกอบการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเครื่องสำอาง เวชสำอางที่สกัดจากสมุนไพรและที่ใช้นาโนเทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบ เวชสำอางใช้แตกต่างจากเครื่องสำอาง คือ เวชสำอางใช้แล้วก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ (Functional cosmetics) สารออกฤทธิ์ที่ถือเป็นเวชสำอางได้แก่ Vitamin, Antioxidants, Hydroxy acids, Growth Factors, Hormones, Peptides, Glycosaminoglycans และสารสกัดจากพืชสมุนไพรบางชนิด ซึ่งจัดเป็นกลุ่มยาอยู่บ้าง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องมีเลขทะเบียน อย. กำกับ
กฎระเบียบทางเครื่องสำอางตามแนวทางภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน ที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2546 ในการกำหนด 12 หลักใหญ่ ข้อตกลงเรื่องเครื่องสำอางของอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะมีการแข่งขันกันมากขึ้นในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย การเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการเปิดตลาด AEC ต้องมีการศึกษากฎหมายของแต่ละประเทศที่เราจะส่งออกผลิตภัณฑ์ ซึ่งพบว่าผลิตภัณฑ์ประเภทสารกันแดดมักจะมีปัญหามากว่าเครื่องสำอางทั่วไป การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ต้องพิจารณา 4 เรื่อง คือ Product ideation, Product claims, Formulation และ Formula conclusion และต้องมีประวัติข้อมูลผลิตภัณฑ์ (Product information file : PIF) ใน 4 ข้อ คือ ภาพรวมและข้อสรุปของผลิตภัณฑ์ ข้อมูลแสดงคุณภาพของวัตถุดิบ ข้อมูลแสดงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิภาพ/สรรพคุณ
กลยุทธ์การตลาดของเครื่องสำอางและสารสกัดสมุนไพรเพื่อรับมือการเข้าสู่ AEC ตลาดเรื่องเครื่องสำอางในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น หากไทยคิดจะส่งออกน่าจะส่งไปที่กลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้เกาหลีได้พัฒนาทานาคา แป้งของพม่าโดยใช้นาโนแล้ว และกลับมาจำหน่ายที่ประเทศไทย
การทดสอบฤทธิ์สารสกัดสมุนไพรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากนาโนเทคโนโลยี สมุนไพร ประเทศไทยมีสภาวะเหมาะสมในการปลูกสมุนไพร เป็นแหล่งผลิตสมุนไพรชั้นเยี่ยม ประโยชน์ในการใช้สมุนไพร คือ รักษาโรค บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ บำรุงเส้นผม เป็นการเจริญเติบโตของตลาดและเครื่องสำอางและสมุนไพรไทย
เหตุผลที่ต้องทดสอบฤทธิ์สารสกัดสมุนไพร เพื่อต้องการข้อมูลในการพัฒนา คัดเลือก สมุนไพร ข้อมูลในการติดตามคุณภาพสมุนไพร และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในทางการค้า ตัวอย่างการทดสอบฤทธิ์สมุนไพรทางเวชสำอาง มี 2 ประเภท คือ Anti-aging และ Whitening และงานวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยี ร่วมกับมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมโดยใช้น้ำมันรำข้าว บัวบก และอัญชัน
การซึมผ่านผิวหนังและการประเมินฤทธิ์ทางคลินิคของสารสกัดธรรมชาติในระบบนำส่งนาโน อุปสรรคใหญ่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากธรรมชาติ (Natural cosmetic) คือ Skin barrier และ Active instability โดย 8 ขั้นตอนหลักในการประเมินฤทธิ์ทางคลินิคของสารสกัดธรรมชาติ คือ Literature review, Study design, Ethic protocol submission, Volunteer selection, Placebo run-in, Panel study, Data analysis และ Report
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยใช้นาโนเทคโนโลยี ขณะนี้แนวโน้มนาโนเทคโนโลยีกำลังได้รับความนิยม มีผลิตภัณฑ์มากมายที่อวดอ้างประสิทธิภาพของนาโน รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเวชสำอาง แต่อีกไม่นาน Stem cell กำลังมา อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดอิ่มตัว มนุษย์จะกลับไปที่ธรรมชาติ (Natural) เหมือนเดิม เพราะอาจมีบางคนหวาดกลัว กังวลกับเทคโนโลยีดังกล่าว ว่าจะมีความปลอดภัยหรือไม่– ( 1874 Views)