ผู้ประกอบการไทย คว้า 4 เหรียญทอง สุดยอดนวัตกรรม ชนะคู่แข่งจาก 25 ประเทศ ในงาน INST 2012 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
2 ตุลาคม 2555 : ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำภาคธุรกิจเอกชนไทย 4 ราย และผลงานนักวิจัยไทยจาก สวทช. เข้าร่วมประกวดและแสดงผลงานนวัตกรรมความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในงาน INST 2012 (8th Taipei International Invention Show & Technomart) ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2555
โดยเป็นผลงานวิจัยของภาคเอกชนที่ได้รับการบ่มเพาะธุรกิจจากสวทช. และผลงานวิจัยของสวทช. ที่สำเร็จและพร้อมออกสู่เชิงพาณิชย์ออกแสดง จนสามารถคว้ารางวัล 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ตามลำดับ
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จ ของ สวทช. ในฐานะหน่วยงานที่พยายามผลักดันงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ขยายผลลงไปสู่เชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตเป็นสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
สวทช.มีบทบาทสำคัญ ในการกำหนดเป้าหมายและมุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงพัฒนางานวิจัยที่สามารถรับมือกับสภาพปัญหาได้ทันเหตุการณ์ ทั้งในแง่การคิดค้นสิ่งใหม่ๆไปล่วงหน้า และการสนับสนุนภาคเอกชนในด้านการบริการวิจัยให้เอกชน การรับจ้างทดสอบ หรือแม้กระทั่งการร่วมลงทุนตั้งบริษัทกับเอกชน เพื่อนำนวัตกรรมใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว และโดยอาศัยองค์ความรู้และงานวิจัยต่างๆที่ สวทช.ได้ริเริ่มดำเนินการไว้ และการทำงานที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานหลักๆ ในภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
ช่วงระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ สวทช. ได้นำภาคธุรกิจเอกชนไทย 4 รายและผลงานวิจัยของสวทช. เข้าร่วมงาน INST 2012 ซึ่งเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเอกชนได้แสดงศักยภาพทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ เช่น เครื่องจักรก่อสร้าง,อุปกรณ์ความปลอดภัยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม, ยาและการดูแลสุขภาพ, การขนส่งและการสื่อสารเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน, ฮาร์ดแวร์, การเกษตร, อาหาร ,สิ่งทอ ฯลฯ
งานดังกล่าวถือว่าเป็นงานที่รวบรวมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมจากภาคเอกชน, สถาบันการวิจัย, นักประดิษฐ์ของแต่ละบุคคลและองค์กรจากประเทศในกลุ่มอาเซียน,เอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นจุดนัดพบสำหรับนักประดิษฐ์และนักลงทุนในการสำรวจความคิดทางธุรกิจและการค้าผลิตภัณฑ์สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมใหม่ๆ และยังเป็นเวทีอันทรงเกียรติสำหรับนักประดิษฐ์ที่คิดค้นนวัตกรรม ถือว่าหากใครผ่านเวทีดังกล่าวและได้รับรางวัลต่างๆ จากงานนี้จะเป็นใบเบิกทางที่ดีอย่างยิ่งสำหรับสินค้าและผลิตภัณฑ์
ภายในงานมีผลงานวิจัยเข้าร่วมประกวดกว่า 2,000 ราย จาก 25 ประเทศ และกว่า 70% เป็นผลงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากประเทศไต้หวัน ทั้งนี้บริษัทเอกชนไทยที่ สวทช.คัดเลือกและส่งผลงานเข้าร่วมประกวดนั้น สามารถคว้ารางวัล 3 เหรียญทอง อันได้แก่ ผลงาน Bioremediation Agent Developed to Greenovation Products (นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีเขียวเพื่อย่อยสลายคราบน้ำมันปิโตรเลียมในอุตสาหกรรม) จาก บริษัทไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิรช์ จำกัด,ผลงาน Eco Dental Unit (เก้าอี้ทันตกรรมประหยัดพลังงาน) จากบริษัทไทย เด็นทอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, ผลงาน Humidity & Temperature Data Logger (เซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดความดันและความชื้นที่มีความไวสูง) จากบริษัทเซ็นเซอร์บิวเดอร์ จำกัด และผลงาน Enzbleach (เอนไซม์ทนด่างจากปลวกสำหรับฟอกเยื่อกระดาษ) ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของ ดร. ธิดารัตน์ นิ่มเชื้อ นักวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค/สวทช.)
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล 1 เหรียญเงิน จากผลงาน Antibiotics Impregnated Hydroxyapatite Beads for Osteomyslitis treatment (การพัฒนาวัสดุนำส่งยาปฏิชีวนะสำหรับการรักษาการอักเสบติดเชื้อของกระดูก) ของดร.จินตมัย สุวรรณประทีป นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค/สวทช.) และสุดท้ายได้รับอีก 1 เหรียญทองแดง จากผลงาน Inno Mat (สารหน่วงไฟจากวัสดุเหลือใช้จากนาข้าวสำหรับการไม่ติดไฟของพลาสติก) ของบริษัทเอส พี ซีอินโนซายน์ จำกัด (SPC Innoscience Co.,ltd)
การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จะเป็นใบเบิกทางที่สำคัญให้กับผู้ประกอบการ พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในตลาด AEC อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งนี้ สวทช. ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่มีความประสงค์อยากจะพัฒนาธุรกิจของตนเองให้ก้าวทันยุคประชาคมอาเซียน สามารถติดต่อขอข้อมูลหรือสอบถาม ได้ที่ สวทช. : Call Center 0-2564-8000
นายวสันต์ อริยพุทธรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิรช์ จำกัด หนึ่งในบริษัทผู้ได้รับรางวัล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ในการที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งวิจัยและพัฒนาขึ้นโดยคนไทย และนับเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะได้ขยายตลาดไปสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น เพราะในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC การที่ผู้ประกอบการไทยหรืออุตสาหกรรมไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อแสดงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ในเวทีนานาชาติ จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาคซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนของผู้ประกอบการไทยต่อไปในอนาคต”
รายการอ้างอิง :
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. ไทยคว้าสุดยอดนวัตกรรม INST2012′. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (ไอที-นวัตกรรม : วิทยาศาสตร์). วันที่ 2 ตุลาคม 2555.– ( 174 Views)