31 พฤษภาคม ของทุกปี ถือเป็น
วันงดสูบบุหรี่โลกซึ่งทุกหน่วยงานต่างรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ รวมทั้ง โรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง ภายใต้การนำของ
นายต่อศักดิ์ โชติมงคลผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ที่ได้ประกาศชัดเจนว่า ไม่มีนโยบายสนับสนุนให้คนสูบบุหรี่ แม้โรงงานยาสูบจะเป็นผู้ผลิตบุหรี่ก็ตาม โดย
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ย้ำว่า โรงงานยาสูบมีหน้าที่สำคัญ ที่กระทรวงการคลังมอบหมายให้ก็คือ การต้านทานสัดส่วนอุตสาหกรรมยาสูบ ให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมโดยไม่ได้มุ่งหวังสร้างยอดจำหน่ายที่สูง หรือกำไร เพียงต้องการเห็นสัดส่วนบุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่ผิดกฎหมายและบุหรี่มวนเอง ลดน้อยลง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนอุตสาหกรรมยาสูบ แบ่งออก 4 ส่วน คือ บุหรี่ไทย ซึ่งผลิตโดยโรงงานยาสูบ 33% บุหรี่ต่างประเทศ 12% บุหรี่ผิดกฎหมาย10-15% บุหรี่มวนเอง 45% ดังนั้น เพื่อเป็นการร่วมนโยบายรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลกการหยุดอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักสูบบุหรี่หน้าใหม่รวมทั้งอยากเห็นสถิติลดลงของผู้สูบ โรงงานยาสูบ จึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพของผู้สูบบุหรี่เป็นหลัก สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพราะการคำนึงเรื่องสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่โรงงานยาสูบต้องการสิ่งที่ดีที่สุด จึงได้มีการเพิ่มนวัตกรรมการลดปริมาณทาร์ และการลด
นิโคติน เพื่อให้คนไทยที่ยังเลิกบุหรี่ไม่ได้และสูบบุหรี่ต่อเนื่องได้รับอันตรายน้อยที่สุด โรงงานยาสูบไม่มีทางเลือกที่จะต้องทำให้บุหรี่มีคุณภาพ และลดการทำลายสุขภาพให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สำหรับคนที่สูบบุหรี่เองถ้ายังไม่เลิกสูบบุหรี่ก็ควรหันมาสูบบุหรี่ที่มีคุณภาพ
หลายปีที่ผ่านมา โรงงานยาสูบ ได้ลดปริมาณทาร์และนิโคตินในบุหรี่จากเดิม 22 มิลลิกรัม/มวน และ 1.4 มิลลิกรัม/มวน เหลือเพียง 13 มิลลิกรัม/มวน และ 0.9 มิลลิกรัม/มวน ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด รวมทั้งได้มีการพัฒนาปรับปรุงระบบก้นกรองโดยใช้ระบบ
เวนทิเลชั่น(Ventilation) หรือระบบระบายอากาศที่ฟิเตอร์ เพื่อลดปริมาณทาร์ นิโคติน และเตรียมออกบุหรี่ที่ลดทาร์ และนิโคตินเป็นพิเศษโดยเฉพาะ หากเปรียบเทียบมาตรฐานบุหรี่ไทย กับบุหรี่ต่างประเทศ ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้ โรงงานยาสูบ ส่งเสริม และดูแลกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ยาสูบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากรุ่นสู่รุ่นที่ถ่ายทอดนวัตกรรม รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร ทั้งในโรงงานยาสูบ ชาวไร่ และระบบเครือข่ายการจำหน่ายที่ล้วนแต่เป็นครอบครัวกันอย่างยาวนาน โดยเฉพาะกระบวนการผลิตบุหรี่ ซึ่งเป็นกระบวนการกลางน้ำ โรงงานยาสูบขอยืนยันว่า ไม่มีการเติม
สารแอมโมเนีย (Ammonia)ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มฤทธิ์ของนิโคติน อย่างที่บริษัทบุหรี่ต่างประเทศบางบริษัทใช้อยู่ในปัจจุบัน ตรงกันข้ามโรงงานยาสูบได้มีขั้นตอนการกำจัด หรือดึงแอมโมเนียในกระบวนการผลิตอีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของโรงงานยาสูบมีคุณภาพ จากการสั่งสมประสบการณ์การผลิตอย่างยาวนานร่วม 75 ปี
ทั้งนี้นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ได้ทิ้งท้ายถึงแผนโครงการในอนาคตว่า โรงงานยาสูบได้มีการพัฒนาการทดลองห้องสูบบุหรี่ระบบปิด ช่วยขจัดกลิ่นควันบุหรี่ให้จางหายไป เพื่อลดปริมาณควันบุหรี่ที่จะไปทำลายสุขภาพของคนอื่น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ หรือที่เรียกว่า Second Hand Smoker ซึ่งโรงงานยาสูบได้จัดทำ
Mock-Up Room หรือห้องตัวอย่าง พร้อมมีการปรับปรุงคุณภาพโดยใช้ระบบ Bio เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยประสานงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)หากผลการทดลองสำเร็จ จะเร่งดำเนินการติดตั้งในพื้นที่สาธารณะ อาทิ สนามบิน สถานีขนส่ง และสถานีรถไฟ
ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่โรงงานยาสูบ จะสร้างสรรค์ให้กับคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่ ได้มีพื้นที่ส่วนตัวและที่สำคัญไม่ทำลายสุขภาพผู้อื่นอีกด้วย
“มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของโรงงานยาสูบมีคุณภาพจากการสั่งสมประสบการณ์การผลิตอย่างยาวนานร่วม 75 ปี”
รายการอ้างอิง :
โรงงานยาสูบพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบร่วมรณรงค์ดูแลสุขภาพผู้สูบบุหรี่. สยามรัฐ (โฆษณาแฝง). ฉบับวันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2556.– ( 130 Views)