สำนักข่าวไทยนำเสนอข่าวต่างประเทศ
นิวยอร์ก 12 มิ.ย. 2013 – นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเปิดเผยแผนเสริมการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมูลค่า 19,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 565,500 ล้านบาท) 7 เดือนหลังจากซูเปอร์สตอร์มแซนดี้ถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ
แผนดังกล่าวประกอบด้วยการสร้างกำแพงกันน้ำสูง 6 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วม รวมถึงเสริมหรือสร้างเนินทรายตามเนวชายฝั่งที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมบนเกาะสแตเทน บรุกลินและคาบสมุทรร็อกอะเวย์ส โดยหน่วยวิศวกรของกองทัพบกสหรัฐ (ยูเอสเอซีอี) จะให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้าง ส่วนงบประมาณจะมาจากการระดมทุนของนครนิวยอร์กและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง
นายบลูมเบิร์กประกาศแผนดังกล่าวขณะเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะส่งผลกระทบต่อนครนิวยอร์กจำนวนกว่า 400 หน้า พร้อมเตือนว่า ในปี 2593 ภัยพิบัติทำนองเดียวกับซูเปอร์สตอร์มแซนดี้จะสร้างความเสียหายร้ายแรงกว่าที่เคยเป็นมา และคาดว่าพื้นที่ 1 ใน 4 ของนครนิวยอร์กจะเป็นพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วม เขาคาดว่าบางโครงการบนพื้นที่ริมชายฝั่งจะเป็นที่ถกเถียงกัน โดยเฉพาะโครงการที่บดบังทัศนียภาพของทะเล อย่างไรก็ตาม นายบลูมเบิร์กยืนกรานว่าเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องแนวชายฝั่ง ระยะทาง 825 กิโลเมตรของนครนิวยอร์ก พร้อมระบุว่าปัจจุบันประชาชนราว 400,000 คนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่องานถึง 270,000 ตำแหน่ง
ในปี 2552 นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งรอบนครนิวยอร์กจะสูงขึ้น 12 เซนติเมตรภายในปี 2563 แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์คาดว่าน้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 20 เซนติเมตร ภายในปี 2563 และอาจสูงถึง 60 เซนติเมตรภายในปี 2593 ผลวิจัยยังระบุว่า ร้อยละ 8 ของพื้นที่ชายฝั่งอาจถูกน้ำท่วมเป็นประจำ เนื่องจากน้ำขึ้น และภายในปี 2593 อุณหภูมิปกติ จะสูงเกิน 32 องศาเซลเซียส ตลอดช่วง 57 วัน หรือเกือบ 2 เดือนของทุกๆ ปี เปรียบเทียบกับปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 18 วัน
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=51b7ea42150ba01a4400036d#.Ubf055ybDGg– ( 34 Views)