สำนักข่าวไทยนำเสนอข่าว
กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.2556 – โครงการใช้ยาทินอฟโฟเวีย ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ใน กทม. ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ร่วมกับ กทม.แถลงผลการศึกษาที่ให้ผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี กินยาทินอฟโฟเวียทุกวัน พบว่า สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ถึงร้อยละ 49 และยังพบว่า การกินยาอย่าสม่ำเสมอยังสามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าผู้ที่กินยาไม่สม่ำเสมอ
คริสตี้ เอ เคนนี (Kristie A. Kenney) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ดร.ไมเคิล มาร์ติน (Dr.Michael Martin) ผู้วิจัย ซีดีซี ร่วมกับ นพ.ขจิต ชูปัญญา เป็นผู้วิจัย โดยร่วมกันแถลงว่าโครงการนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ (Pre-exposure prophylaxis, PrEP ) ซึ่งผลการศึกษานี้ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารการแพทย์ระดับนานาชาติถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของโลกเพราะ การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเป็นวิธีแพร่เชื้อเอชไอวีที่รุนแรงมากที่สุด เมื่อพบการป้องกันนี้ได้จะสามารถหยุดยั้งการติดเชื้อในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดประเภทฉีดได้ดีมาก
โครงการให้ยาทินอฟโฟเวีย เริ่มตั้งแต่ 2548 มีอาสาสมัครที่ใช้ยาเสพติดประเภทฉีดทั้งหญิงและชายสมัครใจร่วมโครงการ 2,413 คน ผลการศึกษาพบว่า อาสาสมัครที่ได้รับยาทินอฟโฟเวีย ติดเชื้อเอชไอวี 17 คน จากจำนวนที่ได้รับยาทินอฟโฟเวีย 1,204 คน ขณะที่มีอาสาสมัครที่ได้รับยาหลอกติดเชื้อเอชไอวี 33 คน จากที่ได้รับยาหลอก 1,207 ราย เมื่อคำนวนแล้วพบว่า ยาทินอฟโฟเวียมีประสิทธิผลในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีถึงร้อยละ 49 และเมื่อวิเคราะห์ต่อพบว่าเมื่อกินยาทินอฟโฟเวียอย่างต่อเนื่องยังสามารถลดความเสี่ยงติด เชื้อเอชไอวีถึงร้อยละ 74 ส่วนผลวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรงยกเว้นคลื่นไส้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม กทม. กระทรวงสาธารณสุข และ ซีดีซี จะวางแผนร่วมกันเพื่อนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในไทยต่อไป
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=51b96c07150ba0a6020000be#.UbluJpybDGg– ( 59 Views)