magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home เก็บมาเล่า เอามาฝาก ‘อีโค ไลท์ เทคโนโลยี’ช่วยประหยัดและรักษ์โลก
formats

‘อีโค ไลท์ เทคโนโลยี’ช่วยประหยัดและรักษ์โลก

ในยุคที่พลังงานเป็นสิ่งมีค่าและเริ่มขาดแคลนในบางช่วงเวลาเนื่องจากความต้องการใช้ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมมีมากขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ความตระหนักเรื่องการประหยัดพลังงานได้มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง

นวัตกรรมและเทคโนโลยีได้เริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นตัวช่วยในการประหยัดพลังงานมากขึ้น และที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในปัจจุบันก็คือ เทคโนโลยี อีโค ไลท์ (Eco Light Technology) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างที่เริ่มแพร่หลายและมีการนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ
อาจารย์กชกร วรอาคม ที่ปรึกษาด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาหากพูดถึงนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม คือการจะทำอย่างไรให้ประหยัดและใช้น้อยที่สุด แต่ในปัจจุบันต้องคิดไปให้ไกลกว่านั้น ต้องคิดในเชิงระบบ การใช้ในคนที่มากกว่า 1 คน ไปจนถึงล้านคน ในฐานะนักออกแบบสามารถเขียนสเปกลงไปในแบบได้ว่าจะให้ประหยัดอย่างไรตั้งแต่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถออกแบบให้ประหยัดได้ โดยนักออกแบบต้องมองในเรื่องธรรมชาติและการใช้แสงในธรรมชาติให้ได้ศักยภาพมากที่สุดก่อน หากยังไม่เพียงพอก็ต้องเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพราะนวัตกรรมคือการนำเทคโนโลยีมาบวกเข้ากับการออกแบบ

เทคโนโลยี อีโค ไลท์ ที่น่าสนใจในปัจจุบัน คือ หลอดประหยัดพลังงานแอลอีดี(LED) และหลอดโอแอลอีดี (OLED) ซึ่งนักออกแบบในต่างประเทศได้นำมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว โดยหลอดแอลอีดี ช่วยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลงได้มากตั้งแต่ 15-70% เจ้าของกิจการสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ส่วนหลอดโอแอลอีดี เป็นพลาสติกเรืองแสงนาโนคล้ายแผ่นฟิล์มที่มีความโปร่งใส ให้แสงสีต่าง ๆ สามารถปรับโค้งงอได้ตามรูปแบบที่ต้องการเหมาะสำหรับการตกแต่งอาคารและสถานที่ต่าง ๆ

อาจารย์กชกร กล่าวต่อว่า ในอดีตหากพูดถึงหลอดไฟก็จะนึกถึงหลอดฟลูออเรสเซนต์ จากนั้นก็มาเป็นหลอดผอม จนปัจจุบัน คือหลอดแอลอีดี ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อนการแนะนำให้เจ้าของโครงการเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดี เป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากมีราคาสูง แต่ปัจจุบันราคาถูกลงตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเจ้าของโครงการหลาย ๆ รายเป็นผู้ระบุเองว่าต้องการใช้หลอดแอลอีดี เพราะความร้อนที่ออกมาจากหลอดน้อยมาก ลดการใช้ไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ  และอายุการใช้งานยาวนานถึง 11 ปี หรือ 1 แสนชั่วโมง

“การใช้หลอดแอลอีดีนอกจากการช่วยเรื่องประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงาน โดยปัจจุบันองค์กรระดับโลกอย่างกูเกิลก็หันมาให้ความสำคัญกับไลท์ติ้ง ดีไซน์มากขึ้น สำหรับในประเทศไทยก็ถือว่าอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน มีหลาย ๆ องค์กรและหลายอาคารเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดี รวมถึงอาคารก่อสร้างใหม่ ๆ อย่างศูนย์การค้าสยามสแควร์ วัน หรือเอสคิว 1 ก็ได้ออกแบบให้ใช้หลอดแอลอีดีในส่วนของแลนด์สเคป หรือทางหน่วยงานของรัฐก็มีแผนเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดี อย่างเช่น อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ หรือ ตามถนนหลวงของกรมทางหลวงก็มีนโยบายเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดีตามถนนสายต่าง ๆ ตั้งแต่สองปีที่แล้ว และในปัจจุบันโครงการและบ้านจัดสรรใหม่ ๆ ก็เริ่มมาใช้เช่นกัน ส่วนการใช้งานบ้านพักอาศัยเริ่มมีให้เห็น ซึ่งก็มีผู้ผลิตบางรายทำหลอดแอลอีดีสำหรับที่อยู่อาศัยออกมาจำหน่ายแล้ว”

สำหรับในส่วนของหลอดโอแอลอีดีปัจจุบันในประเทศไทยมีใช้เฉพาะในธุรกิจเชิงพาณิชย์และโครงการอาคารต่าง ๆ ยังไม่มีการใช้ตามที่พักอาศัย รูปทรงหลอดสามารถโค้งมนได้เหมาะกับการใช้ในงานออกแบบในสถานที่ที่มีข้อจำกัด หรือต้องการความสวยงาม หากต้องการใช้งานต้องสั่งทำจากบริษัทผู้ผลิต ยังไม่มีวางขายตามท้องตลาด และราคายังสูงอยู่ แต่ในอนาคตหากได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าราคาก็จะถูกลงแน่นอน

อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีนี้จะมีงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแสงสว่างสำหรับผู้ประกอบการที่ใหญ่ในระดับภูมิภาคและเป็นครั้งแรกในไทยในชื่อ อีโคไลท์เทค เอเชีย 2013 (EcoLightTech Asia 2013) ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. 56 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทย ในงานจะมีการจัดแสดงนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองการประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างจากผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ecolight-tech.com

รายการอ้างอิง :
‘อีโค ไลท์ เทคโนโลยี’ช่วยประหยัดและรักษ์โลก. เดลินิวส์ (ฉลาดคิด). วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2556.– ( 90 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


− 3 = six

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>