magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home การแพทย์/สาธารณสุข ไทยพบผู้ป่วยอัลไซเมอร์แล้วกว่า 6 แสนคน
formats

ไทยพบผู้ป่วยอัลไซเมอร์แล้วกว่า 6 แสนคน

สำนักข่าวไทยนำเสนอข่าวสังคม
กรุงเทพฯ 15 ก.ย. 2556  – ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในไทยมีกว่า 600,000 คน อนาคตเสี่ยงเพิ่มต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ภาวะสังคมสูงอายุ แนะญาติ-คนใกล้ชิดดูแล

นพ.บุญชัย พิพัฒน์วนิชกุล ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันอัลไซเมอร์โลก “ดูแลอย่างไรกับผู้สูงวัยสมองเสื่อม”  ภายในสวนลุมพินี ในงานมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเสวนาถาม-ตอบเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ การคัดกรอง ตรวจเลือดผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม การให้คำปรึกษาโรคเกี่ยวกับสมองจาก สถาบันประสาทวิทยา โดยมีประชาชนที่มาใช้บริการภายในสวนลุมพินีเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

นพ.บุญชัย กล่าวว่า สถานการณ์โรคอัลไซเมอร์ในประเทศไทยขณะนี้ ตัวเลขของผู้ป่วยด้วยโรคนี้อยู่ที่ประมาณ 600,000 คนทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ 60ปีขึ้นไป  พบร้อยละ 10 และหากอายุ 80 ปีขึ้นไป โอกาสพบสูงถึงร้อยละ 50 ปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุของไทยอยู่ที่ร้อยละ 12.7 ของประชากรทั้งหมด แต่ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น ร้อยละ 18-20 ทำให้มีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้มาจากความเสื่อมของสมองเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากโรคที่เกี่ยวกับสมอง เช่น  โรคหลอดเลือดในสมอง หรืออุบัติเหตุที่ทำให้สมองกระทบกระเทือน เป็นต้น สิ่งสำคัญญาติหรือบุคคลในครอบครัวต้องหมั่นคอยสังเกตพฤติกรรมผู้สูงอายุในครอบครัว  เมื่อพบว่าเริ่มจำสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้ หรือเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ควรรีบพามาพบแพทย์ เพื่อจะได้รักษาให้หาย โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง   ค่ายาบวกกับค่าดูแลเฉลี่ยเดือนละ 25,000 -30,000 บาท และหากรายใดเป็นขั้นรุนแรงก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก ซึ่งค่ายาผู้ที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพเบิกค่ายา  ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ญาติหรือคนใกล้ชิดต้องหมั่นดูแล และต้องใจเย็นกับผู้สูงอายุ จึงจะช่วยลดอัตราการเกิดขึ้นของโรคนี้.

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=52356e16150ba038120000bb#.UjZjcz_xbGg– ( 176 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


4 − = zero

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>