magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home เก็บมาเล่า เอามาฝาก การกลับมาของรถไฮโดรเจน
formats

การกลับมาของรถไฮโดรเจน

ดร.อดิสร นักเทคโนโลยีแห่งเนคเทค อัพเดตเรื่องราวของเทคโนโลยียานยนต์ไฮโดรเจน เรื่องราวมีทั้ง รุ่ง ร่วงและคืนชีพได้อีก

ดร.อดิสร นักเทคโนโลยีแห่งเนคเทค อัพเดตเรื่องราวของเทคโนโลยียานยนต์ไฮโดรเจน เชื้อเพลิงไร้มลพิษ 100% เรื่องราวมีทั้ง รุ่ง ร่วงและคืนชีพได้อีกครั้ง

ไฮโดรเจน (Hydrogen) ธาตุที่เบาที่สุดในโลก ครั้งหนึ่งเคยเป็นความหวังของพลังงานสะอาดที่จะใช้ขับเคลื่อนรถยนต์และโด่งดังจนผู้คนกล่าวถึงว่า เราจะเข้าสู่ยุคเศรฐกิจไฮโดรเจน (Hydrogen Economy) ด้วยซ้ำไป

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่อาศัยเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง หรือ ที่เรียกว่า Fuel Cell นับว่าเป็นผลงานชูโรงในยุครัฐบาลประธานาธิบดีบุช ราวปี 2003 ถึงขั้นประกาศทุ่มทุนวิจัยเกี่ยวกับเซลล์เซื้อเพลิงไฮโดรเจนสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 36,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน ที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษใดๆ ออกมา นอกจากหยดน้ำที่ปลายท่อไอเสีย นอกจากนี้ยังขับไปได้ไกลต่อการเติมไฮโดรเจนแต่ละครั้งด้วยระยะที่เท่าๆ กับรถยนต์ที่เติมน้ำมัน
แต่อีกไม่กี่ปีต่อมา ความฝันอันแสนหวานนั้นก็สลาย เพราะรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่ว่าราคาราวคันละ1 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือประมาณ 30 ล้านบาท ดังนั้น คงไม่มีใครซื้อรถยนต์ราคาแพงระยับเพื่อแลกกับการรักษ์โลก และคงไม่มีใครซื้อรถยนต์ไฮโดรเจนมาเพื่อต้องเติมในสถานีไฮดดรเจนที่มีเพียงไม่กี่แห่งในอเมริกา

แม้กระทั่ง Steven Chu นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลและเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอเมริกาออกมากล่าวยอมรับว่าต้องใช้ปาฏิหาริย์อย่างเดียวเท่านั้นที่เศรษฐกิจไฮโดรเจนจะเกิดได้ ต่อมารัฐบาลของประธานาธิบดีบุชก็หันไปสนับสนุนเทคโนโลยี Biofuel แทน และในปี 2009 รัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามาก็ตัดงบวิจัยเกี่ยวกับรถยนต์ไฮโดรเจนอย่างไม่เหลือซาก และหันมาสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle อย่างเช่น Tesla และรถยนต์ไฮบริดอย่าง Chevrolet Volt และทุ่มเทให้กับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Lithium และ แบตเตอรี่สมัยใหม่อย่าง Supercapacitor

อย่างไรก็ตาม ปาฏิหาริย์กลับกลายเป็นจริงในวันนี้ เมื่อบริษัทโตโยต้าและ GM ต่างออกมาประกาศว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฮโดรเจนที่สามารถใช้ได้จริงในราคาเท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันปกติ และแน่นอนถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ขายอยู่ในปัจจุบัน

รถยนต์ไฮโรเจนแบบสี่ประตูของโตโยต้าจะเปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show ที่จะถึงนี้ด้วยราคาราว 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3 ล้านบาทเท่านั้น หรือถูกกว่านั้นคือราว 1.5 ล้านบาทถ้าเป็นรถยนต์ที่เล็กกว่านั้นหรือแบบ Eco และจะเริ่มขายในท้องตลาดในปี 2015

สาเหตุที่รถยนต์ไฮโดรเจนมีราคาถูกลงอย่างมาก เนื่องจากระบบเซลล์เชื้อเพลิงที่มีขนาดเล็กลง ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและลดการใช้วัสดุซึ่งมีราคาแพงในเซลเชื้อเพลิงอย่างแร่แพทตินั่ม ซึ่งจำเป็นต้องใช้เป็นตัวกระตุ้นปฏิกิริยาระหว่างไฮโดรเจนและออกซิเจน ทำให้เกิดไฟฟ้าไปขับเคลื่อนมอเตอร์และน้ำ ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ซึ่งเป็นอุปสรรคของรถยนต์ไฟฟ้าเพราะมันก็มีราคาแพงเช่นกัน และไฮโดรเจนก็มีต้นทุนที่ถูกลงเมื่อมันแยกได้จากก๊าซธรรมชาติที่ขุดพบใหม่และมีอย่างเหลือเฟือ

นอกจากโตโยต้าและ GM แล้ว ค่ายรถยนต์อย่าง Ford , Daimler และ Nissan ก็ร่วมมือกันผลิตรถยนต์ไฮโดรเจนออกมาขายให้ทันภายในปี 2017 อย่างไรก็ตามขณะนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือ หาทางสร้างสถานีเติมไฮโดรเจนให้มีขึ้นอย่างแพร่หลายและส่งเสริมให้รัฐบาลวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดส่งไฮโดรเจนให้ทั่วถึง และที่สำคัญคือหาทางผลิตไฮโดรเจนด้วยเทคโนโลนีที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุดและสะอาดที่สุดด้วย ความฝันที่จะเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจไฮโดรเจนจะเป็นจริงในไม่ช้า

*ดร. อดิสร เตือนตรานนท์

ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการนาโนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องกลจุลภาค

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

adisorn.tuantranont@nectec.or.th

 

รายการอ้างอิง :

ดร. อดิสร เตือนตรานนท์. 2556. การกลับมาของรถไฮโดรเจน. กรุงเทพฯ : กรุงเทพธุรกิจ (ไอที-นวัตกรรม : วิทยาศาสตร์). ออนไลน์. สืบค้นจากอินเทอร์เน็ต, http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/science/20131120/544490/การกลับมาของรถไฮโดรเจน.html, ค้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556.– ( 100 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


one + 7 =

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>