สวทช.จับมือบริษัทแม็กซ์ลูเมน พัฒนาอุปกรณ์ไดโอด หลอดไฟแอลอีดี ใช้วัสดุสารกึ่งตัวนำเชิงแสงซิงค์ออกไซค์ หวังสร้างเทคโนโลยีใหม่ในการผลิตหลอดไฟส่องสว่างที่ประหยัดพลังงานกว่า 50%
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติและผู้บริหาร (สวทช.) เปิดเผยว่า สวทช. ได้ลงนามความร่วมมือวิจัย “โครงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ไดโอดเปล่งแสงสีขาวโดยใช้วัสดุสารกึ่งตัวนำเชิงแสงซิงค์ออกไซค์” กับบริษัท แม็กซ์ลูเมน จำกัด เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีต้นน้ำ อุปกรณ์แอลอีดีสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมหลอดไฟส่องสว่าง ฯลฯ ด้วยงบประมาณ 300 กว่าล้านบาท โดยคาดว่าภายใน 2-3 ปี จะได้เทคโนโลยีใหม่ ในการสร้างวัสดุสารกึ่งตัวนำเชิงแสงซิงค์ออกไซค์ที่ใช้สำหรับการเปล่งแสงขาว ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดสู่การผลิตหลอดไฟส่องสว่างที่ให้แสงขาวแบบธรรมชาติ พร้อมทั้งสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 50% และมีอายุการใช้งานนานหลายปี มีความปลอดภัยในการใช้งานเนื่องจากส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม
ด้านนายชัยยุทธ เกียรติภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็กซ์ลูเมน จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 มูลค่าตลาดของแอลอีดี ทางด้านการส่องสว่างนั้นมีการเติบโตเกินครึ่งหนึ่งของแอลอีดีในด้านอื่น ๆ คาดว่า อีก 5-6 ปีข้างหน้ามูลค่าแอลอีดีแสงขาวในตลาดโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมหลักตั้งแต่การผลิตแผ่นเวเฟอร์และชั้นเปล่งแสง การประกอบชิพ บรรจุภัณฑ์ไดโอด การประกอบเข้าโมดูล หลอดไฟส่องสว่าง และระบบควบคุม ซึ่งงานวิจัยโครงการนี้ ฯจะเป็นงานวิจัยอุตสาหกรรมต้นน้ำอย่างแท้จริง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมแอลอีดีไลต์ติ้ง แบบ ครบวงจร.
รายการอ้างอิง :
สวทช.วิจัยเทคโนโลยีต้นน้ำอุปกรณ์แอลอีดี. (2557). กรุงเทพฯ : เดลินิวส์. ค้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557. จาก http://www.dailynews.co.th/Content/IT/206437/สวทช.วิจัยเทคโนโลยีต้นน้ำอุปกรณ์แอลอีดี.– ( 16 Views)