10 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงปี 2557 นี้ เป็นผลงานการวิเคราะห์ของ บริษัทวิจัยจูนิเปอร์ (Juniper) ซึ่งนำข้อมูลแหล่งข่าววงในมาวิเคราะห์ร่วมกับแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค กระแสเงินทุน ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหากการวิเคราะห์เป็นจริง เท่ากับว่าโลกเราในปี 2557 จะมีความอัจฉริยะมากขึ้น เงินทองจะผันเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิตอลยิ่งกว่าเดิม และผู้บริโภคจะเริ่ม ‘พิมพ์สินค้า’ ที่บ้านกันอย่างคึกคัก
- มหานครอัจฉริยะ หนึ่งในแนวโน้มชัดเจนที่จูนิเปอร์เห็นคือ สาธารณูปโภคในเมืองใหญ่จะมีความอัจฉริยะยิ่งขึ้น เนื่องจากการพัฒนาเซ็นเซอร์และแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์นั้นถูกนำมาปรับใช้กับระบบขนส่งในเมืองมากกว่าเดิมในปีนี้ นอกจากระบบขนส่ง ระบบมาตรวัด บริการด้านสุขภาพ ระบบไฟส่องสว่างสาธารณะ รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ล้วนจะสามารถดำเนินงานได้ชาญฉลาดกว่าเดิมแนวโน้มการสร้างเครือข่ายเซ็นเซอร์อัจฉริยะในเมืองนั้นเห็นได้ชัดในสหรัฐอเมริกา บริษัทชื่อ Sensity กำลังเดินหน้าสร้างเครือข่ายเซ็นเซอร์เพื่อสร้างระบบไฟถนนประหยัดพลังงานที่สามารถบริหารทรัพยากรโลกได้ดีขึ้น จุดนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง IBM นั้นกำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อใช้ในซานฟรานซิสโก ขณะที่ Cisco กำลังเตรียมพร้อมพัฒนาเพื่อเมืองเลก โนนา ในฟลอริดา สำหรับประเทศไทย แอปพลิเคชันเพื่อการขนส่งมวลชนนั้นเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่นแอปพลิเคชันอย่าง GRABTAXI แอปพลิเคชันสำหรับจองรถแท็กซี่นั้นเริ่มได้รับการตอบรับจากคนกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะมีการพัฒนาที่จริงจังมากขึ้นในอนาคต
- ‘เงินมือถือ’ โตทั่วโลก ต่างชาตินั้นมีการบัญญัติศัพท์ว่า ‘Mobile money’ หรือระบบการชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพาซึ่งผู้ใช้จะสามารถใช้จ่ายเงินได้ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเอง สำหรับปี 2557 ทิศทางมากมายสะท้อนว่าวงการ Mobile money จะเติบโตอย่างมากในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากการขยายตัวของการใช้งานโทรศัพท์มือถือทั่วไป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ภูมิภาคอย่างแอฟริกาและเอเชียล้วนเป็นพื้นที่ที่จูนิเปอร์เชื่อว่าระบบการเงินและธนาคารบนอุปกรณ์พกพาจะถูกใช้งานมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยหากมองไปที่แอฟริกา ข้อมูลระบุว่าอัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือในภูมิภาคนั้นทะลุ 80% ของประชากรแอฟริกาแล้ว แถมยังมีการใช้งานบริการกระเป๋าเงินโมบายล์อย่าง mPesa แล้วในวงกว้าง
- อุปกรณ์ต้อง ‘สวม’ ได้ อุปกรณ์สวมใส่ได้หรือ Wearable device จะเป็นอุปกรณ์แห่งปี 2557 อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะหากมองที่ค่ายไอที แทบทุกค่ายต่างแสดงจุดยืนว่ากำลังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุปกรณ์ไอทีอัจฉริยะที่สวมใส่ได้ เรารู้กันว่า Google กำลังฟูมฟักแว่นอัจฉริยะ Glass พร้อมกับที่ Samsung เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะมาเพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนแล้ว ด้าน Apple ก็ถูกร่ำลือว่าจะเปิดตัว iWatch ในอนาคตอันใกล้ รวมถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะสวมใส่ได้ที่กำลังเดินทัพออกมาบุกตลาดคอนซูเมอร์อย่างเต็มที่ในปี 2557
- แท็บเล็ตเรียนเก่ง อีกหนึ่งแนวโน้มที่เราจะสัมผัสได้ชัดเจนในปี 2557 คือการขยายตัวของอิทธิพล iPad และแท็บเล็ตบางเฉียบในแวดวงการศึกษา จุดนี้เชื่อว่าแรงผลักดันด้านราคาที่ถูกลง และความสามารถที่เฉลียวฉลาดมากขึ้นจะทำให้แท็บเล็ตยิ่งมีเสน่ห์ต่อวงการการศึกษายิ่งขึ้น จุดนี้จูนิเปอร์ฟันธงว่าแท็บเล็ตจะถูกใช้ในนักเรียนและโรงเรียนทั่วโลกอย่างแพร่หลายแทนที่คอมพิวเตอร์พีซีและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแน่นอน
- ฟิตดิจิตอล อุปกรณ์ประเภท Mobile fitness device หรืออุปกรณ์ดูแลสุขภาพเคลื่อนที่คืออีกเทรนด์ที่โลกจะได้เห็นการเติบโตในปี 2557 ที่ผ่านมา กำไลตรวจวัดประวัติการนอนหลับอย่าง Jawbone Up หรือ Fitbit Flex นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง จุดนี้เชื่อว่าในปี 2557 อุปกรณ์ดูแลสุขภาพเคลื่อนที่เหล่านี้จะหันมาให้ความสำคัญต่อการเพิ่มความสามารถพร้อมกับการกำหนดราคาที่ประหยัดกว่าเดิม เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล
- ผู้ใช้ LTE โตเท่าตัว ปี 2557 คือปีที่หลายประเทศวางกำหนดการพร้อมให้บริการเครือข่ายข้อมูลเคลื่อนที่ความเร็วสูง 4G LTE อย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จูนิเปอร์จะเชื่อว่า LTE จะขยายตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าสมาชิกผู้ใช้บริการ 4G LTE ทั่วโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกิน 1 เท่าตัวในปี 2557
- อุปกรณ์จะฉลาด แม้อุปกรณ์ไอทีปัจจุบันจะเฉลียวฉลาดอยู่แล้ว แต่จูนิเปอร์เชื่อว่าปี 2557 อุปกรณ์ไอทีจะเรียนรู้ ‘บริบท’ มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ไอทีจะสามารถเรียนรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร เพื่อเสนอบริการที่เข้ากับกิจกรรมของผู้บริโภคในขณะนั้น จูนิเปอร์ยกตัวอย่างว่า บริการอย่าง Google Now นั้นเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะเป็นบริการที่ Google ให้ความสำคัญต่อการพิจารณาบริบทหรือสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ในขณะนั้น แล้วเสนอผลการค้นหาที่จำเป็นและทันเหตุการณ์ ทั้งหมดนี้เชื่อว่าอุปกรณ์ไอทีในอนาคตจะไม่เพียงสวมใส่ได้ และมีรูปแบบหลากหลาย แต่ยังจะมีความอัจฉริยะมากขึ้น
- อุปกรณ์เกมใหม่ออกตัวแรง ในต่างประเทศนั้น คอเกมพันธุ์ใหม่กำลังปลื้มกับ Ouya และอุปกรณ์เกมคอนโซลขนาดเล็กอื่นๆ ที่ได้ชื่อว่า ‘microconsole’ ซึ่งมีราคาเพียง 20% ของราคาคอนโซลรุ่นใหญ่อย่าง PlayStation 4 และ Xbox One จุดนี้ทำให้จูนิเปอร์เชื่อว่าตลาดคอนโซลจิ๋วจะมีพัฒนาการน่าจับตาในปีม้าขาว โดยเฉพาะในแง่ของตลาดเกมขนาดเล็กที่อาจขยายตัวคลุมตลาดเกมรุ่นใหญ่ในอนาคต
- คลาวด์ส่วนตัวถึงจุดเดือด หลายปีที่ผ่านมา ตลาดบริการคลาวด์สาธารณะหรือ public cloud นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง ผู้ใช้จำนวนมากเริ่มฝากไฟล์ไว้กับค่ายออนไลน์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่สำหรับปีนี้จูนิเปอร์เชื่อว่าตลาดคลาวด์ส่วนตัวหรือ private cloud ขององค์กรจะขยายตัวก้าวกระโดดหลังจากเริ่มได้รับอานิสงส์มานาน คาดว่าตลาดคลาวด์ส่วนตัวปีนี้จะร้อนแรงถึงจุดเดือดทั้งในแง่ของโซลูชันส์ในองค์กร และอุปกรณ์สตอเรจที่รองรับระบบคลาวด์สำหรับใช้ในบ้าน
- เครื่องพิมพ์ 3 มิติยกพล ตลาดเครื่องพิมพ์ 3 มิติหรือ 3D printer ได้รับการยอมรับว่าเป็นตลาดที่ร้อนแรงมากในปี 2556 ที่ผ่านมา แต่เป็นการขยายตัวในแวดวงแบรนด์และผู้ใช้ในกลุ่มโลกตะวันตก จุดนี้ทำให้จูนิเปอร์เชื่อว่าตลาดเครื่องพิมพ์ 3 มิติจะเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากแบรนด์ใหญ่อย่าง HP, Samsung และ Microsoft จะลงมาเล่นในตลาด เรื่องนี้ บริษัทวิจัย Gartner เคยประเมินว่ายอดจัดส่งเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐจะมีมากกว่า 56,507 เครื่องในปี 2556 ที่ผ่านมา เรียกว่าเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบจากปี 2555 โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 320,000 บาทนั้นถูกเรียกว่าเป็น Home 3D Printer ที่ไม่ได้ถูกใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยนอกจากยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นเกือบครึ่งในปีที่ผ่านมา Gartner เชื่อว่ายอดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 98,065 เครื่องในปี 2557 ก่อนจะเพิ่มอีก 2 เท่าตัวในปี 2558คำพยากรณ์ของ Gartner นั้นไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากธุรกิจ 3D printing นั้นเป็นธุรกิจน้องใหม่ที่ถูกคาดว่าจะมีอิทธิพลมากในอนาคต ปัจจุบันเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติทำให้มีธุรกิจอย่างการตั้งตู้ถ่ายภาพที่ลูกค้าจะได้ผลงานภาพพิมพ์ 3 มิติเป็นรูปปั้นจิ๋วที่มีใบหน้าเหมือนจริง หรือรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่เหนือกว่ากระดาษทั่วไป ที่สำคัญ ปัจจัยบวกในธุรกิจเครื่องพิมพ์ 3 มิติ กลไกราคาที่คาดว่าจะทำให้เครื่องพิมพ์มีราคาต่ำลง ขณะที่รูปแบบการสร้างสรรค์งาน 3 มิติแบบ DIY แสนสนุกในบ้านจะเริ่มมีพัฒนาการที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้มีโอกาสสูงที่เครื่องพิมพ์ 3 มิติจะมียอดขายเกิน 100,000 เครื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า
ต้องรอดูกันต่อไปว่า สิ่งที่วิเคราะห์นั้น มีความเป็นจริงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องรอกันนานหน่อยค่ะ
ที่มา : 10 เทคโนแรงดีปีม้า 57.(2557). กรุงเทพฯ:TechTVThailand. สืบค้นข้อมูลวันที่ 17 มกราคม 2557 จาก http://www.techtvthailand.com/10-techno-repulsion-horse-57/– ( 28 Views)