magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home เก็บมาเล่า เอามาฝาก ก.พลังงานเร่งศึกษาพลังงานทางเลือก
formats

ก.พลังงานเร่งศึกษาพลังงานทางเลือก

สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวเศรษฐกิจ
ก.พลังงาน 10 มี.ค. 2557 -กระทรวงพลังงานยืนยันประเทศไทยมีความจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็ตาม โดยเดินหน้าศึกษารูปแบบการผลิตไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย

นายชุมพล ฐิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนไทยศึกษาดูงานศูนย์ผลิตไฟฟ้าระบบทําความร้อน และความเย็นด้วยก๊าซธรรมชาติ (Shinjuku District Heating and Cooling Center) ของบริษัท เอ็นเนอร์จี แอดวานซ์ ในเครือของโตเกียวแก๊ส กรุ๊ป ที่เมือวชินจูกุ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันประเทศไทย ถือว่า มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงในการจัดหาพลังงาน เนื่องจากมีการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติในการนำมาผลิตไฟฟ้ามากถึงร้อยละ 70  ทำให้กระทรวงพลังงาน ต้องวางยุทธศาสตร์การกระจายแหล่งและชนิดเชื้อเพลิง เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเชื้อเพลิงประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป และเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ให้มีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการผลิตไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

สำหรับการผลิตไฟฟ้าระบบทําความร้อน และความเย็นด้วยก๊าซธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นต้นแบบที่ดี ในการนำความร้อนที่เหลือทิ้ง จากกระบวนการผลิตไฟฟ้า ในการเผาไหม้ก๊าซธรรมชาติ โดยมาผลิตเป็นระบบทำความร้อนใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าหนาว  และผลิตเป็นระบบทำความเย็น มาใช้ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งถือเป็นการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยบริษัท เอ็นเนอร์จี แอดวานซ์ จะทำหน้าที่จ่ายไฟและสิ่งที่ผลิตได้ไปยังอาคารสูง ที่มีการใช้พลังงานจำนวนมาก เช่น อาคารสํานักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงเรียน และโรงพยาบาล รวม 21 อาคาร จากทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้ระบบดังกล่าวแล้วจำนวน 150 อาคาร  ซึ่งทุกอาคาร จะสามารถประหยัดการใช้พลังงานลง ได้ร้อยละ 10 และยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึงร้อยละ 30 – 40

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้บ้างแล้ว เช่น อาคารศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และสนามบินสุวรรณภูมิ  ซึ่งการมาศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เชื่อว่า สามารถนํามาประยุกต์ในกรุงเทพมหานครได้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนมีความต้องการ โดยเฉพาะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปี ซึ่งจะเป็นช่องทางการ ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า แก่ภาคธุรกิจพาณิชย์ และภาคครัวเรือนได้ในอนาคต

ซึ่งบริษัท เอ็นเนอร์จี แอดวานซ์ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนให้บริการรูปแบบดังกล่าวในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ประเทศไทย และอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนไปยังประเทศต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งไทยไม่ขัดข้องแต่ก็ต้องดูความเหมาะสมและนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงผลศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ ประเทศไทย มีความจำเป็นจะต้องปฏิรูปด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนเข้ามาทำงานก็ตาม และเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะแผนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่จังหวัดกระบี่ เพื่อความมั่นคงทางพลังงานในภาคใต้

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=531d3777be04708c0f8b4570#.Ux1PzYWDjGg– ( 22 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


× 5 = twenty

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>