ทุกข์ของสาว ๆ มีมากมายหลายด้าน สำหรับสาว ๆ ออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานทั้งวัน การกินที่ง่าย ๆ เร็ว ๆ ในชั่วโมงที่เร่งรีบเพื่อทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาของเจ้านายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ เช้าแซนด์วิชจากร้านสะดวกซื้อ กลางวันไก่ทอดข้าวเหนียวป้าหน้าออฟฟิศ บ่ายขนมกรุบกรอบ เย็นตามด้วยพิซซ่า 1 ถาดกับเพื่อนสาวในออฟฟิศ จึงมีผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงเป็นอันดับ 5 รองจากมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งปอด
นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป คลินิกเครือรพ.กล้วยน้ำไท กล่าวว่า พฤติกรรมการรับประทานฟาสต์ฟู้ดที่เรามักคิดไปว่า “สะดวก ง่าย รวดเร็ว” เป็นอาหารที่มีกากใยน้อย ไขมันสูง ยิ่งกลุ่มที่ไม่ออกกำลังกาย และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ พบประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคดังกล่าว, เคยมีประวัติป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่ ปากมดลูก, เคยมีติ่งเนื้อชนิดโพลิปส์ในลำไส้ใหญ่, เคยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ, สูบบุหรี่เป็นประจำ หรืออ้วน จะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่คือ มะเร็งที่อยู่บริเวณส่วนของลำไส้ใหญ่ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เรียกว่าลำไส้ใหญ่โคลอน และลำไส้ใหญ่ส่วนปลายคือช่วงส่วนยาว 6 นิ้วสุดท้ายก่อนถึงทวารหนัก เกิดจากการที่เซลล์เจริญเติบโตแบบผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ และยังไร้ระเบียบ โดยการโตจะคล้ายกับขาปูที่ยื่นเข้าไปในเนื้อเยื่อที่ปกติอยู่รอบ ๆ และยังสามารถเคลื่อนย้ายเพื่อไปโตในตำแหน่งที่อยู่ไกลจากบริเวณเดิมได้
สาเหตุการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่พบแน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากการระคายเคืองหรือถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือเกิดจากการแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเซลล์บริเวณเนื้อเยื่อของลำไส้ แต่จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเป็นประจำและในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวันจนสามารถขับถ่ายอุจจาระเป็นประจำทุกวันในปริมาณ 350 – 500 กรัมต่อวัน มักจะใช้เวลาให้อาหารเดินทางภายในลำไส้จนถึงขับถ่ายเป็นเวลาประมาณ 20 -30 ชั่วโมง ไม่ค่อยพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ ใหญ่ ส่วนคนที่กินไฟเบอร์น้อย ไขมันสูง ไม่ค่อยออกกำลังกาย อุจจาระแม้ทุกวันแต่ปริมาณน้อยเพียง 75 -100 กรัมเท่านั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว เพราะอาหารที่มีไขมันสูงและเนื้อสัตว์จะใช้เวลาเดินทางภายในลำไส้จนถึงขับถ่ายถึง 2-4 วัน ซึ่งลักษณะของเนื้ออุจจาระมักเป็นครีมติดชักโครก สีน้ำตาลเข้มเกือบดำ และกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ยิ่งมีอุจจาระปนเลือดและท้องเสียสลับท้องผูกควรรีบพบแพทย์
ลำไส้ใหญ่จะมีเชื้อโรคชนิดดี และชนิดไม่ดีอาศัยอยู่ แบคทีเรียชนิดไม่ดีเกิดจากการบูดเน่าสะสมของเศษอาหารในลำไส้ ที่เกิดจากการรับประทานเนื้อสัตว์หรือแป้งชนิดขัดขาวเป็นประจำ ทำให้เกิดเป็นคราบติดอยู่ในลำไส้และเกิดการบูดเน่าในที่สุด ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อโรคมะเร็งเพราะแอลกอฮอล์จะไปเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ พบว่าผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่า 2-3 เท่า
ถ้าพบว่าการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีเลือดสีแดงสดหรือแดงคล้ำปนออกมากับอุจจาระ อุจจาระก้อนเล็กลงกว่าเดิมมาพักหนึ่ง ท้องเสียสลับกับท้องผูกและมักรู้สึกว่าถ่ายไม่หมด อาหารไม่ค่อยย่อย อาเจียน ความอยากอาหารลดลง ท้องอืด ปวดท้อง ผอมลงกะทันหันและมีโลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ มีแผลที่บริเวณทวารหนักมานานและมีอาการเจ็บอย่างต่อเนื่อง หรือคลำพบก้อนในท้อง มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องมาน และบวมน้ำควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่มักพบว่าช่วงแรกๆ ของโรคดังกล่าวมักไม่ค่อยแสดงอาการ สิ่งที่สังเกตได้คือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ถ้ารับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ อุจจาระมีกลิ่นเหม็น มีปริมาณน้อย และมักเป็นคราบติดชักโครก ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ที่สำคัญเป็นระยะแรกจะไม่แสดงอาการ จึงทำให้โอกาสในการตรวจพบและรักษาให้หายขาดมีน้อยลง ดังนั้นหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ พฤติกรรมการ
กินผักน้อยชอบรับประทานเนื้อและไขมัน ไม่ค่อยออกกำลังกาย บวกกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน จึงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นประจำทุกปีโดยไม่ต้องรอให้มีอาการผิดปกติ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ดีกว่า
คุณผู้หญิงทั้งหลายขออย่าห่วงงานมากกว่าสุขภาพตัวเองอีกต่อไป ควรหาเวลาออกกำลังกายให้ร่างกายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง หากไม่มีเวลาในช่วงหลังเลิกงาน ก็ควรหาเวลาในวันหยุดออกกำลังกายแล้วจะรู้ว่าชีวิตดีขึ้นมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รายการอ้างอิง :
เพิ่มอาหารกากใยคู่ออกกำลังกายห่างไกลมะเร็งลำไส้. (2557). เดลินิวส์ (ไอที). วันที่ 16 มีนาคม 2557. จาก http://www.dailynews.co.th/Content/IT/222957/เพิ่มอาหารกากใยคู่ออกกำลังกายห่างไกลมะเร็งลำไส้.– ( 10 Views)