สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวเศรษฐกิจ
กทม. 31 มี.ค. 2557 – นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่าจะลงทุน 10,000 ล้านบาทภายใน 20 ปีข้างหน้าสำหรับ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง และโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองเพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนของกลุ่ม ปตท.บนฐานงานวิจัยและพัฒนาเพื่อ บริษัทที่แข่งขันได้ทั่วโลก
นายไพรินทร์ กล่าวว่าแผนงานดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยขณะนี้เริ่มการก่อสร้าง 2 หน่วยงานดังกล่าวใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ควบคู่การวางแผนการสร้าง นักเรียนและนักศึกษา รวมทั้งการดึงนักวิชาการต่าง ๆ ร่วมกันทำงาน ซึ่งการระดมทุนจะผ่านมูลนิธิสถาบันวิทยาศาสตร์และมูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งเงินส่วนหนึ่งจะมาจากเงินทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ของบริษัทในกลุ่ม ปตท.ที่ตั้งไว้ว่าจะต้องจัดสรรงบด้านนี้ประมาณร้อยละ 3 ของผลกำไร ปัจจุบันมีรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท
ดังนั้น กลุ่ม ปตท.จะมีงบประมาณด้านนี้ประมาณ 4 พันล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายให้สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างนักพัฒนามีผลงานวิจัยและสร้างความเป็นเลิศ ทางการศึกษา โดยภายใน 5 ปีจะต้องเป็นสถาบันที่เป็นเลิศในประเทศไทยภายใน 10 ปีจะต้องติดระดับเป็นเลิศในอาเซียน และภายใน 15 ปีจะเป็นเลิศระดับโลก
“กลุ่ม ปตท.ได้มีการศึกษาพบว่าบริษัทที่ติดอันดับฟอร์จูนอย่างยั่งยืนจะต้องมีงานด้านวิจัยและพัฒนาหรืออาร์แอนด์ดี และจากการเปรียบเทียบประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น ผู้นำเกาหลีใต้ได้ให้ความสำคัญเรื่องอาร์แอนด์ดี จนสามารถพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในปัจจุบัน” นายไพรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ นายไพรินทร์ กล่าวระหว่างร่วมงานเสวนา “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : พลังขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยในงานนี้ทางกลุ่มเอกชน เช่น นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายพยุงศักดิ์ ชาติสิทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต่างเห็นว่า การพัฒนาอาร์แอนด์ดี จะเป็นทางออกสร้างความแข็งแกร่งของประเทศ ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องมุ่งเน้นให้ความสำคัญร่วมกัน โดยต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทางผู้นำของประเทศจะเป็นประธานด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องการเห็นรัฐบาลไทยให้ความสำคัญด้านนี้มากขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท.
http://www.mcot.net/site/content?id=53396469be047095288b4572#.UzovSFf9Hcs– ( 23 Views)
