สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวสังคม
กรุงเทพฯ 20 เม.ย. 2557 – สาธารณสุขเตือนภัยประชาชนกินไข่แมงดาทะเล ทั้งเมนูเผาหรือยำ ในช่วงหน้าร้อนนี้ เสี่ยงอันตรายจากพิษของไข่แมงดา โดยเฉพาะไข่แมงดาถ้วย ซึ่งจะมีความเป็นพิษสูง ในช่วง ก.พ.-มิ.ย. พิษรุนแรงเหมือนพิษปลาปักเป้า ความร้อนทั้งจากการต้ม ทอด ปิ้ง ย่าง ทำลายพิษไม่ได้ ในปีนี้พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากกินไข่แมงดาทะเล 17 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่จังหวัดตราด
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์-12 มีนาคม 2557 ได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยา พบเหตุการณ์อาหารเป็นพิษจาก รับประทานไข่แมงดาทะเลเผาและยำ ในจังหวัดตราด 5 เหตุการณ์ ผู้ป่วยรวม 17 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยผู้ป่วยที่ได้รับรายงานอยู่ใน4 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองใหญ่ 3 ราย อ.เมือง 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย อ.เขาสมิง 1 ราย และ อ.แหลมงอบ 8 ราย อาการของผู้ป่วยที่พบคือชาที่ปาก ลิ้น แขน ขา และลำตัว พูดไม่ชัด อาเจียน เวียนศีรษะ
แมงดาทะเลมีอยู่ 2 ชนิดคือ แมงดาจานหรือแมงดาทะเลหางเหลี่ยม มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย และแมงดาถ้วย ซึ่งมีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ แมงดาทะเลหางกลม หรือ เห-รา หรือแมงดาไฟ ตัวมีขนาดเล็กกว่าแมงดาจาน และตัวมีสีส้มหรือน้ำตาลเข้ม อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน ลักษณะแตกต่าง ของแมงดา 2 ชนิดนี้ สังเกตได้ที่หาง โดยแมงดาจานจะมีหางเหลี่ยม ส่วนแมงดาถ้วยมีหางกลม แมงดาที่ไม่มีพิษ และรับประทานได้ คือ แมงดาจาน ส่วนแมงดาที่มีพิษรับประทานไม่ได้ คือ แมงดาถ้วย ซึ่งโดยตัวของมันเองไม่สร้างพิษ แต่สารพิษเกิดมาจาก 2 สาเหตุ คือ 1.แมงดาถ้วยไปกินตัวแพลงก์ตอนที่มีพิษ หรือกินหอย/หนอนที่กินแพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย 2.เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ของแมงดาถ้วยสร้างพิษขึ้นมาได้เอง จึงขอย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการรับประทานไข่แมงดาในช่วงนี้
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท.
http://www.mcot.net/site/content?id=5353a77ebe0470eed98b45b8#.U1R7iFf9Hcs– ( 7 Views)