แพร์ (European Pear) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pyrus communis เป็นผลไม้เมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรป โดยมีหลักฐานทางโบราณคดีระบุว่าได้มีการนำแพร์ที่เป็นพืชป่ามาปลูกเป็นพืชสวน
จากหลักฐานในยุโรปสมัยยุคหินใหม่และยุคบรอนซ์ การปลูกแพร์มีบันทึกในเอกสารของกรีกโบราณและจักรวรรดิโรมัน เป็นไม้ยืนต้น ใบรูปไข่ ผิวใบเรียบ กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดผลใกล้เคียงกับแอปเปิล เปลือกบาง สุกแล้วเนื้อนิ่มมาก ฉ่ำน้ำ
แพร์มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวและหวานหอม เป็นพืชคนละสปีชีส์กับสาลี่ แพร์เองแบ่งได้เป็นหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่นิยมในตลาดมากที่สุดคือ Williams pear หรือเรียกว่า Bartlett ในสหรัฐและแคนาดา
เนื้อลูกแพร์ไม่แข็งเท่าเนื้อแอปเปิล นอกจากบริโภคเป็นผลไม้แล้ว แพร์ยังนำไปแปรรูปได้โดยการเชื่อม แช่อิ่ม ตากแห้ง บรรจุกระป๋อง ใช้ทำของหวาน เช่น พาย น้ำผลไม้จากลูกแพร์ที่นำไปหมักเรียก เพอร์รี (perry)
แพร์ มีรสหวาน บำรุงม้าม ขับแห้ง สลายน้ำ ขับร้อน ถอนพิษ แก้ปวด มักใช้บำบัดอาการลำไส้ทำงานไม่ปกติ โรคบิด แน่นท้อง ผอมแห้ง แผลเปื่อย มีโปรตีน เลซิทิน และกรดแอมิโน รวมทั้งมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี1 และบี2 วิตามินเอและอี ซึ่งสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ป้องกันการขาดแคลเซียมในกระดูก และบำรุงระบบประสาทในสมอง
ที่มา : แพร์. (ออนไลน์). สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557, จาก http://www.nextsteptv.com/?p=5364– ( 87 Views)