magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home เก็บมาเล่า เอามาฝาก อาหาร “ม่วนใจ๋” …จัดจ้านไร้รสเนื้อ
formats

อาหาร “ม่วนใจ๋” …จัดจ้านไร้รสเนื้อ

ยังคง “สุขภาพดีได้…ไม่ใส่เนื้อ” แต่ครั้งนี้ขอมีกลิ่นอายล้านนา กับอาหารมังสวิรัติพื้นเมืองภาคเหนือ

เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ขึ้นล่องเป็นครั้งที่เท่าไรนับไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งจะต้องเจอะเจอกับ…ข้าวซอยเนื้อนานาชนิด น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แคบหมู ฯลฯ วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ มื้อหนึ่งสองมื้อบ้างแล้วแต่ความพึงพอใจ และ “เอียน” ของผู้บริโภค
แต่คราวนี้พิเศษออกไป เมื่อรถคู่ใจ (ที่เช่ามาชั่วคราว) ผ่านถนนศรีลานา สายตาบังเอิญไปพบป้ายหน้าร้าน “ป้าตา อาหารสุขภาพ” เหลือบเห็นผู้คนจำนวนหนึ่งนั่งที่โต๊ะเก้าอี้ไม้ไผ่ตัวเตี้ยๆสองสามตัวซึ่งวางอยู่กลางลาน ข้างๆกันมีซุ้มอาหารสี่ห้าจุดรายล้อม …แวะสักหน่อยดีกว่า ถึงท้องจะยังไม่ร้องโครกครากก็ตามเถอะ

วันนี้ จำเนียร เอี่ยมเจริญ หรือ “ป้าตา” แห่งเมืองเชียงใหม่ เจ้าของร้านยิ้มแย้มออกมาต้อนรับพร้อมเชื้อเชิญให้เราเลือกชิมลิ้มรสอาหารตามแต่ใจปรารถนา เอ๊ะ!!!! มันอาหารสุขภาพตรงไหน ไม่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปเลย ป้าตารีบเฉลยว่า “ทุกอย่างเหมือน แต่ที่ไม่เหมือนคือไม่มีเนื้อสัตว์จ๊ะ”

“นั่นมันปลาหมึกย่างนะคะป้าตา” … ดูดีๆอีกที เห็ดออรินจิย่างนี่หว่า… “แคบหมูชัดๆเลยป้า ไม่เนื้อสัตว์ตรงไหน”…ผู้บ่าวหลังซุ้มเฉลยว่าแคบหมูเจ ทำมาจากเห็ด… “ที่อยู่บนข้าวซอย เนื้ออะไรหรือคะ”…นั่นทำจากเต้าหู้จ๊ะ เมื่อหยุดถามเพราะ “เหนื่อย” และ “เชื่อ” แล้ว ก็แอบเห็นป้าตาอมยิ้มขำนิดๆในความเปิ่นของเจ้าหนูจำไมคนนี้

ส่วนผสมหลักที่ควรจะเป็นเนื้อสัตว์ ป้าตาจะใช้ “เห็ด” และ “เต้าหู้” มาดัดแปลงเป็นส่วนใหญ่ เช่นเป็ดพะโล้ ป้าจะใช้ฟองเต้าหู้มาทาน้ำพะโล้ สลับกับเห็ดหอมซอย ทำแบบนี้ 4-5 ชั้น ม้วน ห่อผ้า เชือกมัด แล้วตุ๋นในน้ำพะโล้ พอระหว่างชั้นสมานกันดีก็นำขึ้นไปทอด หั่น ราดน้ำ วางเครื่องเคียง ก็เป็นอันใช้ได้

หรือถ้าจะทำปลาดุกฟู ก็จะใช้เต้าหู้ขูดฝอย เห็ดหั่นละเอียดและสาหร่าย ผสมกันเพื่อให้ได้กลิ่นรสที่ใกล้เคียงแล้วนำไปทอดกรอบ ส่วนน้ำพริกกะปิ ใช้ไข่เค็มแทนกะปิแล้วทำทุกอย่างเหมือนน้ำพริกกะปิ แต่ใส่ ซีอิ๊วขาวหรือเกลือแทนน้ำปลา เติมน้ำตาลเพื่อเรียกความกลมกล่อมออกมา

ส่วนสูตรอาหารแปลกๆ นั้นได้มาจากทดลองปรับนู่นเปลี่ยนนี่ บวกกับประสบการณ์ท่องเที่ยว จึงนำสิ่งที่พบเห็นเวลาเดินทางมาประยุกต์ทำเป็นสูตรอาหาร แล้วใช้ทักษะที่คุ้นเคยปรุงรสได้ถูกปากถูกใจ

“มังสวิรัติที่รับประทานแล้วอร่อยอยู่ที่การปรุง พอทำบ่อยๆ ก็จะคิดออกว่าถ้าอยากให้ได้รสนี้สัมผัสนี้ ควรต้องมีอะไรและทำอย่างไร”

ป้าตายกตัวอย่างว่า เคยเปลี่ยนแกงฮังเลเป็นข้าวส้มปรุงด้วยผงกะหรี่ทำเป็นข้าวปั้น นำเอาสาหร่ายแม่น้ำโขงมาทำยำไกยีหรือทอดเป็นแผ่น หรือดัดแปลงโรยม้วนห่อเป็นข้าวปั้นแบบญี่ปุ่น ส่วนของกินเล่น (Snack) อย่าง ข้าวแต๋นก็ดัดแปลงเป็นเมี่ยงลาว ข้าวแต๋นหน้าตั้ง ข้าวแต๋นฉู่ฉี่ ทำให้ความหลากหลายของอาหารเหนือมื้อนี้ของเราวิเศษกว่าครั้งไหนๆ

ทั้งนี้ ถ้าเป็นกลุ่มชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยียน ป้าตาก็จะทำอาหารให้หน้าตาดูสากล เช่น ถ้าจะทำไส้อั่ว ก็จะนำข้าวเหนียวมาห่อไส้อั่วแล้วตัดเป็นคำๆ เหมือนอาหารญี่ปุ่น หรือถ้าจะทำออเดิร์ฟเมือง ก็จะทำเป็นค็อกเทลแบบคานาเป้
นอกจากส่วนผสมของเมนูอาหารจะสร้างความฉงนสนเท่ ชวนน้ำลายสอแล้ว เสน่ห์ของร้าน “ป้าตา” ยังอยู่ที่การดัดแปลงให้มีรูปลักษณ์ย้อนยุค เช่น การจัดใส่กระทงเล็กๆ ส่วนน้ำสมุนไพร อาทิ กระเจี๊ยบ อัญชัน ใบบัวบก ก็จะใส่กระบอกไม้ไผ่ ถือเป็นการรับประทานอาหารสุขภาพไปพร้อมๆกับช่วยลดภาวะโลกร้อน

กินกันจนอิ่มแปล้ และไม่รู้สึกว่าแตกต่างจากอาหารที่มีเนื้อสัตว์หรืออาหารเหนือที่เราเคยกิน ก็ได้เวลาซักถามป้าตากันอย่างจริงจังถึงสูตรลับความอร่อย

ถ้ามีคำถามว่า “ไม่มีเนื้อสัตว์จะอร่อยได้หรือ” ป้าตาแก้ต่างพร้อมบอกเคล็ดลับว่า ถ้าคนไหนทานอาหารมังสวิรัติแล้วไม่อร่อย แสดงว่าคนทำยังตระหนี่อยู่ คือไม่ทำให้ถึงเครื่องถึงรส คนจะทำอาหารมังสวิรัติให้ดีต้องฝึกใจไม่ให้ตระหนี่ ใส่ของให้เต็มที่และใช้ของดีๆ

คำพูดของป้าตาทำให้ต้องกลับมาคิดต่อว่าจะเริ่มทำอาหารมังสวิรัติไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้ายังไม่พร้อม ก็ลองหาร้านที่ถูกใจ แล้วสนุกกับการถอดสูตร ค่อยเอามาลองทำเองที่บ้านก็ได้ว่ากันว่า คนรับประทานมังสวิรัติได้นาน นอกจากสุขภาพดี มีความอร่อยแล้ว ความท้าทายที่ได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆด้วยตนเองนี่แหละ คือเคล็ดลับ

รายการอ้างอิง :

ดาด้า. อาหาร “ม่วนใจ๋” …จัดจ้านไร้รสเนื้อ. กรุงเทพธุรกิจ (Life Style : สุขภาพ). วันที่ 9 พฤศจิกายน 2555.– ( 235 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*


− two = 7

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>