คำว่า “กรีน” ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่สีเขียว หรือสีรักษ์โลก แต่คือการสร้างสิ่งที่เหมาะสมกับฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย และสะท้อนความรู้สึกต่างๆของปัจเจกบุคคลอย่างชัดเจน ด้วยทฤษฎี “สี” เนรมิตความสุข
หลังจากการสำรวจข้อมูลและวิจัยนานนับปี โดยใช้ทฤษฎีสีตามตำรา บวกกับประสบการณ์ของคนในวงการออกแบบ และกูรูผู้เชี่ยวชาญ อย่าง รศ. ปิยานันต์ ประสารราชกิจ อาจารย์พิเศษรายวิชา Colour Study & Design จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาด้านการออกแบบสี ตบท้ายด้วยกรณีศึกษาโดยตรงจากความเห็นของผู้บริโภคกว่าห้าร้อยคน ร่วมกันคัดสรรกลุ่มสีที่จะมากำหนดเทรนด์สีปี 2013-2014
คิดค้น…แล้วเคาะ!!
พงษ์เชิด จามีกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เห็นสีสัน นั่นเป็นพรสวรรค์อยู่แล้ว ซึ่งคนเราจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ได้อยู่ในสภาพไร้สี แต่ต้องอยู่ในสีสันบ้าง เพื่อให้มีศักยภาพมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า คนๆนั้นต้องการจะอยู่ในโหมดหรือสภาวะใด หน้าที่ของสีจำเป็นต้องสนองตอบความต้องการนั้นๆได้โดยไม่มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น ซึ่งการกำหนดเทรนด์สีแต่ละปี มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ซื้อที่ยังตัดสินใจไม่ได้ สามารถเลือกสีให้ตรงกับความรู้สึกได้ หรือจะเรียกว่าเทรนด์สีปี 2013-2014 คือเครื่องมือตัดสินใจนั่นเอง
แต่ก่อนที่จะกำหนดเทรนด์สีได้นั้น สิ่งสำคัญคือการวิจัยและพัฒนากลุ่มสีให้สนองตอบความต้องการที่แตกต่างอย่างสุดขั้วของคนนับล้านๆได้ โดยการค้นคว้าอาศัยแบบวิจัยทั่วโลก นั่นคือ สำรวจจากสภาพความเป็นอยู่ รูปแบบการใช้ชีวิต และวัฒนธรรมว่าคนในพื้นที่นั้นๆ มีคอนเซ็ปต์อะไรบ้าง จากนั้นก็ให้นักวิชาการร่วมระดมความเห็น ก่อนส่งต่อให้สู่การวิจัยอย่างละเอียด ด้วยการนำคำพูดต่างๆมากำหนดสีนับพันสีที่มีความอ่อนแก่ไม่เท่ากัน ว่าถ้าพูดถึงคำนี้หรือชุดคำถามนี้ จะนึกถีงสีใด จากนั้นก็ลองนำมาทดลองใช้จริง ลองแปรความสุขเป็นความหมายที่แท้จริง
เทรนด์สี…มีอะไร?
เทรนด์สีใหม่ปี 2013-2014 สำหรับงานตกแต่งภายในและภายนอกภายใต้แนวคิด What color is green? ซึ่งประกอบด้วย 4 หมวดสีหลักเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนและรื่นรมย์ ทั้งในแง่ของการใช้งาน (Function) และอารมณ์ความรู้สึก (Emotion) โดยแต่ละหมวดสีจะถูกแบ่งอีกเป็น 2 กลุ่มที่เป็นคู่ตรงข้ามกัน เสิร์ฟความต้องการที่หลากหลาย ไลฟ์สไตล์สุดชิค บ่งบอกตัวตนสุดขั้ว
กลุ่มแรก กลุ่มสีเกี่ยวเนื่องกับร่างกาย ฟื้นคืนความสมดุลให้กับชีวิต BODI BALANCE แยกออกเป็น Relax สีสร้างสมดุล ให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ด้วยกลุ่มสีเย็นสดใสของสีฟ้าและสีเขียวหลากโทน จับคู่กับ Active สีลดความเฉื่อยชา ปรับชีวิตชีวาให้ร่าเริง ได้แก่ กลุ่มสีร้อน เหลือง ส้ม แดง และเขียวมะนาวสดใส
ตามด้วยกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มสีช่วยปลอบโยนสภาวะอารมณ์แห่งจิตวิญญาณ เมื่อต้องการความสงบและสติ EMO COMFORT แบ่งเป็น Reality สีให้สติ สร้างสมาธิ สำรวมอารมณ์ ให้รื่นรมย์กับปัจจุบัน ด้วยสีเย็นสงบ นิ่งลึกของขาว เทา น้ำเงิน และสีหม่นนวลตา ของฟ้า ม่วง และเขียว ส่วนคู่ตรงข้ามกันก็คือ Dream สีสู่ฝัน แปรผันความว้าวุ่น ให้ลบเลือน และปล่อยวางทางอารมณ์ ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความสร้างสรรค์และจินตนาการ ด้วยสีหวานอ่อนโยน ของเหลือง ชมพู ส้ม และสีกลางๆของเทาไปจนถึงฟ้าอมเขียว
สำหรับกลุ่มที่ 3 อย่าง FLEXI MIND กลุ่มสีเกี่ยวพันกับกาลเวลา พลังแห่งโทนสี สรรสร้างความยืดหยุ่นระหว่างความยั่งยืนและฉาบฉวย จากสีคลาสสิก สงบสง่าดูน่าสนใจขึ้น เมื่อมีสีสดใสมาแต่งแต้ม มีทั้ง Sustain สีโครม่าต่ำ ที่สร้างความรู้สึกมั่นคงไม่รู้เบื่อ แม้เมื่อเวลาจะผ่านไปนับ 10 ปี ก่อเกิดจากสีธรรมชาติ สีอุ่นของสีเหลืองคล้ำ ถึงน้ำตาลไหม้ และสีเย็นลุ่มลึกของฟ้าคราม ปะทะกับคู่สีตรงข้าม ในชื่อ Snapshot สีกระตุ้นตา แวบเข้ามาให้หวือหวาเพียงชั่วครู่ จึงต้องใช้สีสด สนุกเร้าใจของม่วงมาเจนต้า ส้มแซลมอน แดงเมลอน เขียวสด และเหลืองมะนาว สร้างความประทับใจ ช่วยเรียกร้องความสนใจจากชีวิตที่จำเจได้ทันที
“มีคำถามว่า ความยั่งยืนมีจริงหรือเปล่า คนรุ่นก่อนอาจจะยึดสีที่ทาหัวลำโพงหรือภูเขาทอง ว่า ถ้าทาแล้วต้องอยู่ทนนาน กี่รุ่นๆก็ไม่เปลี่ยน แต่คนยุคนี้ความคิดก็เปลี่ยนไป อาจมีคนที่ยังชอบความยั่งยืน แต่ก็มีคนที่ชอบความหวือหวา ชั่วครู่อยู่ด้วย เราก็ปรับให้ตอบสนองได้ทั้งสองกลุ่ม ซึ่ง สี Snapshot ที่ว่าอาจใช้เพียงเล็กน้อย เพื่อให้เราหันไปมองนิดหน่อยก็พอแล้ว แต่ยุคนี้ไม่มีบ้านไหนที่ทาสีเดียว มันต้องผสมให้เหมาะกับอารมณ์หรือการใช้งานของพื้นที่แต่ละส่วนของที่อยู่อาศัย” รศ. ปิยานันต์ กล่าว
และกลุ่มท้ายสุดคือ กลุ่มสีวัดระยะทาง สีมีพลัง ก่อให้เกิดภาพลวงตา OPTIC OPTIMIZE แบ่งออกเป็น สีแคบ Reduce สีปรับความเวิ้งว้างกว้างไกลให้กระชับเข้าใกล้ อุ่นใจ อุ่นตา ด้วยโทนสีสดสว่าง ของสีส้มและเหลือง กับสีหม่นมืดของแดงก่ำ น้ำเงินเข้ม และเทาอมเขียว จับคู่กับสีตรงข้ามอย่าง Expand สีสร้างพื้นที่ ผลักผนังใกล้ๆให้ไกลออกไป ลวงตาให้ห้องดูใหญ่กว่าที่เป็น ด้วยสีอ่อนๆสว่างใสเบาบาง ของขาวเจือส้ม เหลือง เขียว ฟ้าและเทา
สีไหนอินเทรนด์ สีนั้นก็จะสะท้อนความกรีนในแบบของเรา
รายการอ้างอิง :
ชฎาพร นาวัลย์. ปีมะเส็ง..เทรนด์สีใดมาแรง. กรุงเทพธุรกิจ (ไอที-นวัตกรรม : นวัตกรรม). วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555.– ( 248 Views)
