ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% ของน้ำหนักตัว ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ว่า ทำไมเราสามารถอดอาหารได้เป็นระยะเวลานานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน แต่ไม่สามารถอดน้ำได้เกินกว่า 3 -7 วัน และถ้าขาดน้ำเรื้อรัง (Chronic Dehydration) เป็นพฤติกรรมที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอเป็นประจำทุกวัน ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้อย่างคาดไม่ถึง การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพนั้น ควรเป็นการดื่มน้ำอย่างถูกต้อง จึงจะเรียกได้ว่า “เพื่อสุขภาพ” จริงๆ ซึ่งเราดื่มอย่างถูกต้องแล้ว น้ำจะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันการขับถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่ปวดหลังหรือบั้นเอว เพราะสุขภาพไตแข็งแรง การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ยังช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้นน้ำจะเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องดื่มน้ำเพราะความจำเป็นก็ตาม แต่การจะดื่มน้ำอย่างถูกต้องสามารถทำได้ ดังนี้
น้ำที่ควรดื่ม ควรเป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ควรเป็นน้ำที่ร้อนมากหรือที่เย็นจัด แต่ถ้าเป็นน้ำอุ่นๆ เล็กน้อย ก็ควรดื่มในตอนเช้าเพราะจะเป็นการดีท็อกซ์ลำไส้ให้สะอาด จะส่งผลทำให้การขับถ่ายดีขึ้นได้ ซึ่งระยะเวลาที่ควรดื่มน้ำใน 1 วัน อาจจะเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับตัวเองได้ ดังนี้
- ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว
- ตอนสาย ดื่มน้ำ 2 แก้ว
- ตอนบ่าย ดื่มน้ำ 3 แก้ว
- ตอนเย็น ดื่มน้ำ 3 แก้ว
- ก่อนเข้านอน ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบายดีขึ้น รวมแล้วให้สามารถดื่มน้ำเปล่าได้วันละ 10 แก้ว นอกจากนี้ยังสามารถดื่มน้ำนม น้ำผลไม้, ฯลฯ ได้อีกไม่จำกัด
เคล็ดลับการดื่มน้ำแบบง่ายๆที่ท่านสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ตามขั้นตอนดังนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัว
ร่างกายคนเรานั้นต้องประกอบด้วยน้ำ 60-70% เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวเรา ตามสูตรที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดเอาไว้ คนเราในแต่ละวันต้องดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักของตัวเอง วิธีคำนวณก็คือเท่ากับว่าถ้าท่านหนัก 60 กิโลกรัม ต้องดื่มน้ำให้ให้ประมาณ 1.9 ลิตรต่อวัน หรือ เกือบ 10 แก้ว - ดื่มน้ำตอนเช้าหลังตื่นนอน
ตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำ 4 แก้ว ( 640 ซีซี )ดื่มน้ำอุ่นๆได้ยิ่งดี เพราะน้ำอุ่นนั้นดื่มง่ายกว่าน้ำธรรมดา และอุณหภูมิของน้ำที่ดื่มไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย ไม่เป็นการไปดึงอุณหภูมิของร่างกายให้เย็นลง เพราะน้ำลายบูดที่สะสมมาตั้งแต่ขณะนอนหลับ มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สามารถฆ่าจุลินทรีย์พิษในทางเดินอาหาร และช่วยในการขับถ่ายให้เป็นปกติ - ดื่มน้ำให้ถูกเวลา
ควรดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร 45 นาที หลังจากนั้นจึงรับประทานอาหารได้ตามปกติ เมื่อรับประทานอาหารแล้วไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอะไร จนกว่า 2 ชั่วโมงผ่านไป เพราะการดื่มน้ำมากระหว่างรับประทานอาหารจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางการย่อยเป็นไปได้ไม่ดี - ดื่มน้ำระหว่างวัน
10.00น. 14.00น. และ16.00น. - ดื่มน้ำก่อนนอน
ดื่มน้ำอุ่นๆ 1 แก้ว - หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม
อุณหภูมิโดยปกติของร่างกายคนเรานั้นอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียส ถ้าเราดื่มน้ำเย็นๆ สัก 2 องศาเซลเซียส น้ำเย็นจะต้องไปดึงความร้อนของร่างกายมาทำให้อุณหภูมิของน้ำเท่ากับร่างกาย การดูดซึมจึงจะทำงานได้ ทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและเสียเวลาในการปรับสมดุลให้คืนสู่ปกติ
ข้อแนะนำ
- ไม่จำเป็นต้องดื่มครั้งละ 2 – 3 แก้วติดต่อกันทันที ดื่มตามปรกติสบายๆ ผู้ที่ทำตามครั้งแรก ๆ อาจรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย เป็นอาการปรกติธรรมดา ทั้งนี้เพราะผนังลำไส้ และกระเพาะอาหารขยายตัวขึ้น หากทำติดต่อกันเป็นประจำก็จะไม่มีอาการอีก
- ระยะแรก จะเกิดการปัสสาวะบ่อย ครั้งแรกๆ จะมีสีเหลืองข้นขุ่นกลิ่นฉุน เนื่องจากน้ำที่ดื่มไปชะล้างไตให้สะอาด
- อย่าดื่มน้ำมากก่อนหน้าที่จะรับประทานอาหาร (ควรงดดื่มน้ำมากสักครึ่งชั่วโมงก่อนรับประทานอาหาร) และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ ก็ไม่ควรดื่มน้ำมากๆ ทันที ในระหว่างการรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา เพราะการดื่มน้ำมากในระหว่างรับประทานอาหารจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง การย่อยเป็นไปได้ไม่ดี
- การทานอาหารในแต่ละมื้อไม่ควร อิ่มจนแน่นท้องเกินไปควรให้อิ่มพอดีแล้วรับประทานผลไม้สดจะทำให้สะอาดคอ แล้วจิบน้ำตามนิดหน่อยท่านจะรู้สึกสบายท้องหลังจากนั้นสักครึ่งชั่วโมง จึงดื่มน้ำตามปรกติ
นอกจากนี้ ประโยชน์ของน้ำมีมากกว่าไว้แก้กระหายอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ การดื่มน้ำจึงเป็นอีกวิธีที่จะช่วยดูแลรูปร่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งการดื่มน้ำนั้นช่วยในเรื่องของการลดความอ้วนให้คุณได้ เนื่องจากน้ำสามารถลดความอยากของอาหาร ลดการสะสมของไขมันลงได้อย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อพูดถึงรูปร่าง คงต้องไม่ลืมเรื่องการออกกำลังกายกับการดื่มน้ำ เพราะการออกกำลังกายนั้น ร่างกายจะสูญเสียน้ำโดยการขับมาเป็นเหงื่อ แต่หลายคนก็ยังมีความเข้าใจที่ผิดว่า เกลือแร่ หรือน้ำหวานเป็นเครื่องดื่มที่ดีหลังเสียเหงื่อไปกับการออกกำลังการ ซึ่งนายแพทย์วิชัย เดชะทัตตานนท์ ผู้อำนวยการแผนกสร้างเสริมสุขภาพ แผนกประกันสังคม ร.พ.กล้วยน้ำไท 1 ยืนยันอย่างเต็มที่ว่า น้ำที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกายนั่นคือ “น้ำเปล่า”
เพราะเครื่องดื่มทั่วไปประเภท น้ำหวาน เกลือแร่ หรือน้ำเพิ่มพลัง ชนิดต่าง ๆ มักจะมีปริมาณน้ำตาล สูงกว่า 2.5 % จึงทำให้เคลื่อนที่สู่กระเพาะอาหารและถูกดูดซึมได้ ช้ากว่าน้ำเปล่า และการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย เป็นการเสียน้ำมากกว่าเสียเกลือแร่ในร่างกาย และไม่ได้ สูญเสียโพแทสเซียมจึงไม่จำเป็นต้อง ดื่มน้ำเกลือแร่เข้าไปทดแทน แต่ถ้าดื่มเข้าไป บางคนอาจทำให้รู้สึกจุกเสียด ท้องอืด น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และจะมีอาการมากขึ้น หาก เป็นน้ำอัดลม เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้กระเพาะอาหารขยายตัวขึ้นทำให้จุก แน่น ไปเบียดกล้ามเนื้อกระบังลม ปอดจะขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้หายใจ ไม่อิ่ม และหมดแรงเร็วขึ้น
ขณะที่น้ำเปล่านั้น ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ปรับระดับความดันโลหิต ช่วยลำเลียงอาหาร และออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ ช่วยทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดี
ส่วนวิธีดื่มน้ำอย่างถูกวิธีนั้น ควรดื่มน้ำเปล่าไม่เกิน 1 แก้ว ก่อนออกกำลังกายประมาณ 10 นาที ในขณะออกกำลังกายจิบเล็กน้อยทุก 10-15 นาที แต่ถ้ารู้สึกกระหายน้ำแต่ไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้วภายใน 1 ชั่วโมง และหลังจากการออกกำลังกายราว ครึ่งชั่วโมงควรดื่มน้ำสัก 2 แก้ว แต่ในกรณีที่เหนื่อยจัดๆ แล้วอยากดื่มน้ำ ก็ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้ว เพราะอาจเกิดภาวะน้ำเกิน ทำให้เวียนหัว หรือสมองปวดร้าวได้
เมื่อทราบถึงการดื่มน้ำที่ถูกต้องและดีต่อสุขภาพแล้วนั้น อีกสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้คือ การเลือกบริโภคน้ำที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งน้ำที่ดีต่อสุขภาพควรมีลักษณะ ดังนี้
จากองค์การอนามัยโลก ได้กำหนดแนวทางในการพิจารณามาตรฐานน้ำดื่มไว้ ดังนี้
- ปัจจัยทางกายภาพ ได้แก่ลักษณะ สี รส กลิ่น ความขุ่น ความเป็นกรด / ด่าง ความกระด้าง สารแขวนลอย
- ปัจจัยการปนเปื้อนของสิ่งมีชีวิต (เชื้อโรค)
- ปัจจัยการปนเปื้อนของสารเคมี
- ปัจจัยการปนเปื้อนของโลหะหนัก และสารกัมมันตภาพรังสี
สิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำขึ้นกับปัจจัยที่มีอยู่มากมาย ซึ่งอาจบำบัดให้มีคุณภาพได้ เช่น การต้มเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ถ้าเป็นสารเคมีบางชนิด และโลหะหนัก อาจมีขั้นตอนการกำจัดที่ต้องใช้เครื่องมือทำให้น้ำบริสุทธิ์
ควรเลือกน้ำดื่มชนิดขวดอย่างไร
น้ำดื่มที่ใส่ขวดขาย ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด แม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาน้ำดื่มจากโรงงานผลิตน้ำบรรจุขวดกว่า 700 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกับมาตรฐานน้ำสะอาด และมาตรฐานน้ำประปาแห่งชาติ โดยตรวจน้ำดื่มบรรจุขวดมากกว่า 1,000 ขวด สรุปได้ว่าไม่สามารถจะรับรองความปลอดภัยของน้ำดื่มบรรจุขวดได้ทั้งหมด
น้ำดื่มบรรจุขวดในประเทศไทย ถ้าผลิตจากบริษัทชั้นนำจะน่าเชื่อถือได้ เพราะจะควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงชื่อเสียงไว้ แต่โรงงานผลิตน้ำดื่มบางแห่งอาจมีคุณภาพเพียงตอนขอใบอนุญาตเท่านั้น บางแห่งไม่มีหนังสือรับรอง Good Manufacturing Practice (GMP) บางครั้งไม่ผ่านการกรองแม้แต่ระดับเดียว เพียงแต่บรรจุน้ำเข้าไปในขวดจากน้ำประปาที่ทิ้งให้กลิ่นคลอรีนระเหยไปก่อนเท่านั้น เราอาจตัดสินใจซื้อเพียงเพราะเห็นขวดที่ดูน่าจะสะอาดดี และราคาถูกกว่าเท่านั้น ดังนั้นหากท่านจะซื้อน้ำดื่มชนิดขวด ก็ควรเลือกจากบริษัทผู้ผลิตที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ดังนั้น การดื่มน้ำเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการดื่มน้ำ ก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพดีแก่ร่างกายทั้งภายในและภายนอก แต่การดื่มน้ำอย่างถูกต้องนั้นก็ยังคงไม่พอ ยังต้องดื่มน้ำที่ดีถูกสุขลักษณะอีกด้วยจึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
รายการอ้างอิง :
ชาลิกา เคนดี. (2556). การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ. ค้นคืนเมื่อ 26 เมษายน 2556, จาก http://www.baanjomyut.com/library/water/.
น้ำเปล่า.. มหัศจรรย์ใกล้ตัว. เข้าถึงได้จาก: http://www.foodslender.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/. (วันที่ค้นข้อมูล: 26 เมษายน 2556).
สมศักดิ์ วรคามิน. (2556). น้ำดื่มเพื่อชีวิต. ค้นคืนเมื่อ 26 เมษายน 2556, จาก http://www.thaicam.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=317:2010-08-09-09-58-56&catid=81:2010-08-06-03-43-56&Itemid=147.
Toongpang. (2556). น้ำเปล่า เครื่องดื่มที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย. ค้นคืนเมื่อ 26 เมษายน 2556, จาก http://vcharkarn.com/varticle/44295.– ( 848 Views)