รศ. ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ. ดร. วยา พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ร่วมพัฒนาการวิธีสังเคราะห์สารวาวแสงสำหรับตรวจสอบคราบเลือดชื่อ ลูมินอล (luminol) เป็นผลสำเร็จ ซึ่งสารวาวแสงชนิดนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น งานวิจัยนี้ได้พัฒนาเตรียมขึ้นใช้เองในประเทศ และยังได้พัฒนาอนุพันธุ์ของสารวาวแสงเพื่อหาสารตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมแต่ต้นทุนการสังเคราะห์ถูกลง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพัฒนาสูตรการเตรียมสารละลายลูมินอล (luminol) เพื่อให้การวาวแสงในที่มืด มีระยะเวลาที่นานขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีระยะเวลาในการเก็บบันทึกภาพ หรือค้นหาคราบเลือดในปริมาณที่น้อยได้ง่ายขึ้น ในการทดลองยังสามารถใช้สารละลายดังกล่าวแยกประเภทคราบเลือดของมนุษย์และสัตว์ได้ชัดเจน โดยผลจากการสเปรย์ลงบนคราบเลือดมนุษย์สารมีการวาวแสงสีอมม่วงเกิดขึ้นทันทีหลังจากสารทำปฏิกิริยากับเลือดประมาณ 2.30 นาที ส่วนการทดสอบกับเลือดสุนัขการวาวแสงไม่สว่างมาก แต่วาวแสงนานประมาณ 3.40 นาที และเลือดแมวปรากฎว่ามีการวาวแสงน้อยระยะเวลาแค่ 50 วินาที งานวิจัยนี้มีนิสิตที่ร่วมทำวิทยานิพนธ์ในโครงการ 2 คนคือ น.ส. อาริษา ศรีดวงใจ และ นายอัครพนธ์ เอี้ยวรัตนวดี ผู้สนใจรายละเอียด โปรดติดต่อหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แหล่งที่มา :
พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน โครงการวิจัยที่ขั้วโลกใต้
ขั้วโลกใต้หรือทวีปแอนตาร์กติก เป็นดินแดนที่ออกจะลึกลับไปสักหน่อยแต่มีข้อมูลที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์เราให้ค้นคว้ามากมาย และที่ขั้วโลกใต้แห่งนี้มีนักวิจัยจากประเทศไทยร่วมทำการศึกษาวิจัยอยู่ด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีภารกิจสำคัญ คือสนับสนุนการวิจัยของคนไทยจึงได้ร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดส่งนักวิจัยไทยจำนวน 2 ท่านคือ รศ.ดร. สุชนา ชวนิชย์ และ ผศ.ดร. อรฤทัย ภิญญาคง จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการวิจัยภายใต้ “โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ณ ทวีปแอนตาร์กติก ในปี พ.ศ.2557 โดยหน่วยงาน Chinese Arctic and Antarctic Administration เปิดโอกาสให้นักวิจัยชาวไทยได้ร่วมทำวิจัยที่สถานีวิจัยเกรทวอลล์ของประเทศจีน โดยมีบริษัทเอกชนสนับสนุนโครงการวิจัยนี้คือ บริษัทในกลุ่มเครื่องดื่มกระทิงแดง และและบริษัทลอรีอัล (ประเทศไทย) โครงการนี้เกิดจากพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบราราชกุมารี ฯ พระองค์เป็นคนไทยองค์แรกที่เคยเสด็จไปยังทวีปแอนตาร์กติก ในปี พ.ศ.2532 ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับการไปสำรวจทวีปแอนตาร์กติกครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับนักวิจัยไทย โดยรองศาสตราจารย์ ดร. วรณพ วิยกาญจน์ เป็นนักวิจัยไทยคนแรกที่ไปทำวิจัย ณ
สถานีรถไฟใต้ดินในยุโรปที่สวยที่สุด
สถานีรถไฟใต้ดิน ที่ไหนเก่าแก่ที่สุดทราบหรือไม่?? คำตอบคือ “สถานีรถไฟใต้ดินลอนดอน หรือ ลอนดอนอันเดอร์กราวนด์ (London Underground)” สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงเริ่มมีมาตั้งแต่ ค.ศ.1863 และเปิดการเดินรถไฟความเร็วสูงสายแรกงคือ “รถไฟใต้ดินลอนดอน” ในปี ค.ศ.1890 เป็นการเดินรถไฟแรกที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการขับเคลื่อน และสำหรับประเทศไทยระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงสายแรกในประเทศไทยที่เปิดให้บริการคือ “รถไฟฟ้าบีทีเอส” ซึ่งเป็นการให้บริการแบบยกระดับ (ลอยฟ้า) เปิดทำการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นต้นมา กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อจะพาทุกท่านไปชมสถานีรถไฟใต้ดินที่ได้ชื่อว่า “สวยงามที่สุด” ในแถบยุโรป ไปดูกันว่ามีสถานีไหนบ้างที่ติดอันดับ และมีสถานทีใดบ้างที่สามารถสร้างความตื่นตาตรึงใจให้กับผู้ที่มีโอกาสไปใช้บริการได้มากที่สุด – ( 200 Views)
ความสวยงามของเม็ดทราย
ทราย…. สิ่งที่เราเห็นได้ทั่วไปตามชายหาด ทรายเม็ดหยาบ ละเอียด สีสรรต่างกันไป ดูเผินๆ อาจจะเหมือนกันไปทุกแห่ง แต่ความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในเม็ดทรายนั้นมีจริงและเปิดเผยขึ้นเมื่อ Dr. Gary Greenberg ได้เริ่มถ่ายภาพเม็ดทรายเหล่านี้ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์เป็นเวลา 12 ปี จากการถ่ายภาพเม็ดทรายผ่านกล้องจุลทรรสน์นี้เผยให้เห็นเม็ดทรายที่มีความสวยงามของรูปร่าง และสีสัน จากภาพขยายเม็ดทรายเหล่านี้ Dr.Gray Greenberg ได้เก็บภาพเหล่านี้จากพื้นทราบแทบจะทั่วโลกอย่างเช่น เกาะเมาวีในฮาวาย ประเทศญี่ปุ่น รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐมินนิโซตา เกาะไอร์แลนด์ เป็นต้น เหตุผลในการทำเช่นนี้ก็เพราะเขาชื่นชมในความสวยงามของทรายเม็ดเล็ก ๆ เพราะมันมีรูปร่างและสีสันที่สวยงามไม่เหมือนกัน นอกจากภาพถ่ายผ่านกล้องจุลทรรศน์ของเม็ดทรายแล้ว Dr.Gray ยังมีภาพถ่ายผ่านกล้องจุลทรรศน์จากสิ่งอื่นๆ อาทิ ดอกไม้ ให้ได้ชมความสวยงามแบบขยาย ผ่านเว็บไซต์ http://sandgrains.com แหล่งที่มา : สำรวจโลกแฟนเพจ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : https://www.facebook.com/samrujlok. (วันที่ค้นข้อมูล 7 กุมภาพันธ์ 2557). The Art of Science: The Microscope Photography
พลังวิทย์ คิดค้นเพื่อคนไทย ตอน การทดลองในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง
ในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจจะได้ไปใช้ชีวิตในอวกาศกันก็เป็นได้ แต่มนุษย์เราจะอาศัยอยู่ในอวกาศที่ไร้แรงดึงดูดของโลกได้อย่างไร และเชื่อหรือไม่ว่าเด็กไทยของเราก็มีส่วนในการช่วยค้นคว้าวิธีการใช้ชีวิตในอวกาศด้วยเหมือนกัน ในทุกๆ ปี จะมีกลุ่มเยาวชนไทยจะได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นไปทำการทดลองบนเครื่องบินชนิดพิเศษ ที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบินลำนี้จะทำการบินขึ้นและลงเป็นลูกคลื่นหรือ parabola ทำให้เกิดสภาวะไร้น้ำหนักในช่วงเวลาสั้นๆ และในช่วงสภาวะไร้น้ำหนักเวลาสั้นๆ นี้ เยาวชนไทยของเราจะได้มีโอกาสทำการทดลองในสิ่งที่เยาวชนไทยให้ความสนใจ เพื่อเปรียบผลของสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะไร้น้ำหนักกับผลที่เกิดขึ้นบนพื้นโลก ผลการทดลองที่ได้จะทำให้เราเข้าใจและสามารถเตรียมรับมือกับการใช้ชีวิตในอวกาศได้เป็นอย่างดี การทดลองสภาวะไร้น้ำหนัก ณ ประเทศญี่ปุ่นนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และองค์การสำรวจอวกาศประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องการพัฒนาเยาวชนให้มีศักยภาพในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อช่วยพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต ติดตามชมย้อนหลังรายการ พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน การทดลองในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง – ( 27 Views)
เว็บไซต์ 1 ทศวรรษวิทยาศาสตร์กับบทบาทของไทย
http://www.centurythaiscience.org เว็บไซต์ที่รวบรวมเหตุการณ์สำคัญทางวิทยาศาสตร์สำหรับคนไทย เว็บไซต์นี้จัดทำสำเร็จไปได้ด้วยดีจากความร่วมมือขององค์กรหลักสามแห่งด้วยกัน ได้แก่ มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ : รวบรวมเนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ บริษัท เอสซีจี : ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ มูลนิธิหอศิลปะแห่งรัชกาลที่ ๙ : เป็นผู้ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือ ๑ ศตวรรษวิทยาศาสตร์กับบทบาทของไทย และ จัดทำเว็บไซต์ www.centurythaiscience.org เว็บไซต์แห่งนี้มีจุดเด่นคือ ให้ความรู้เรื่องเหตุการณ์สำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ของไทย เช่น ต้นกำเนิดคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์นี้ก็ยังบรรจุข้อมูลทางประวัติศาสตร์ทั้งของประเทศไทยและชองโลกควบคู่กันไปด้วย เช่น เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของไทยใน พ.ศ.2486 หรือ เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นต้น พร้อมทั้งนำเสนอเหตุการณ์สำคัญในอดีตย้อนหลังไป 100 ปีไว้ด้วย การนำเสนอง่ายต่อการเข้าชม เพราะนำเสนอเป็นรูปแบบของเส้นเวลา (Timeline) แบ่งเป็นช่วงเวลาในแต่ละทศวรรษอย่างชัดเจน และในแต่ละช่วงเวลาในแต่ละช่วงของเหตุการณ์นั้นๆ ยังบรรจุคลิปวิดีโอสั้นๆ ไว้ให้ดูทั้งเหตุการณ์ปัจจุบันและในอดีตไว้ให้ได้ชมด้วย– ( 79 Views)
10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม ประจำปี 2556
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ประกาศผล 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประจำปี 2556 (TOP TEN INNOVATIVE BUSINESS 2013) เพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของภาคเอกชน และแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดบรรยากาศการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการคัดเลือกดังนี้ อันดับที่ 1 “คูลแคป” สมุไนพรลดไข้จากบอระเพ็ด อันดับที่ 2 “เซนส์” อุปกรณ์สื่อสารทางสายตาสำหรับผู้ป่วยอัมพาต อันดับที่ 3 “บิ๊กเบา” รถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์น้ำหนักเบาเชิงพาณิชย์ อันดับที่ 4 “สไมล์ฟีต” แผ่นรองรองเท้าเพื่อสุขภาพ อันดับที่ 5 “คูเน่” ผงปรุงรสจากหอมหัวใหญ่ อันดับที่ 6 “เฮมพ์ไทย” พรมรองพื้นรถยนต์จากเส้นใยกัญชง อันดับที่ 7 “ซูกาเวีย” สารให้ความหวานจากธรรมชาติ อันดับที่ 8 “ฟิอูเม่” อ่างอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุ อันดับที่ 9 “สไปโรไจร่า ไบโอมาส์ค” เวชสำอางค์อินทรีย์จากสาหร่ายเทา อันดับที่
ที่มาของ “ปากกาลูกลื่น”
มนุษย์เรามีการบันทึกวิถีชีวิตมาตั้งแต่สมัยอดีตกาลนับพันปีมาแล้ว การเขียนบันทึกนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์ในการขีดเขียน ดังนั้นอุปกรณ์การเขียนของมนุษย์เราได้ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้จดบันทึกเรื่อราวต่างๆ มาแล้วกว่าพันปี เช่น การนำต้นอ้อมาเหลาให้แหลมเพื่อใช้ในการเขียนอักษรคูนิฟอร์ม ของขาวเซเมติก เป็นต้น และในเวลาต่อมาอุปกรณ์การเขียนนี้ก็ได้ถูกพัฒนาและประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นปากกาแบบหมึกชนิดต่างๆ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปากกาลูกลื่น ก็ได้ถือกำเนิดในฐานะอุปกรณ์เครื่องเขียนอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานการประดิษฐ์ของนักฟอกหนังชาวเมืองเวย์เมาท์ ประเทศสหรัฐฯ นาม “จอห์น เจ.ลาวด์” โดยปากกาลูกลื่นในยุคของนายลาวด์ ก็จะใช้ลูกโลหะกลมๆ เล็กๆ บรรจุไว้บริเวณปลายปากของปากกาหมึกซึม เพื่อควบคุมการไหลของหมึก ทั้งนี้ ปากกาลูกลื่นยุคแรกๆ เหมาะสำหรับใช้เขียนบนแผ่นหนัง หรือบนพื้นผิวที่ไม่เรียบเท่านั้น ส่วนการเขียนบนกระดาษแผ่นเรียบ จะเป็นปากกาลูกลื่นที่ได้รับการพัฒนาในยุคต่อมา ซึ่งก็สามารถผลิตและขายเป็นสิ่งประดิษฐ์ได้ในปี 1944 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสะดวกในการพกพาและเมื่อถูกน้ำตัวอักษรก็ยังคงอยู่ และในปัจจุบันนี้ปากกาลูกลี่นก็ยังคงได้รับความนิยมและมีใช้ติดมือกันแทบทุกคน แหล่งที่มา : “คนพลิกโลก / จอห์น เจ. ลาวด์ ก่อเกิดปากกาลูกลื่น”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.siamrath.co.th/web/?q=คนพลิกโลก-จอห์น-เจ-ลาวด์-ก่อเกิดปากกาลูกลื่น. (วันที่ค้นข้อมูล 5 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 55 Views)
ฉลอง 10 ปี Facebook กับฟังก์ชั่น “A Look Back”
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 (ค.ศ. 2014) ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 10 ปี Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 (ค.ศ.2004) ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Facebook ได้เปิดตัวฟังก์ชันชื่อว่า “A Look Back” (มองย้อนกลับไปในวันวาน) เป็นภาพยนตร์คลิปสั้นๆ 1 นาที เพื่อรวบรวมภาพประทับใจต่างๆ ตลอด 10 ที่ผ่านมาที่เราได้ใช้ Facebook เป็นอีกช่องทางในการพูดคุยสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน Lookback เก็บรวบรวมภาพเหตุการณ์ที่ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่สมัครเป็นสมาชิก Facebook เก็บรวบรวมภาพประทับใจไว้ อาทิ เริ่มใช้ facebook ครั้งแรกปีไหน, โพสแรกบน Facebook, โพสที่มีคนกด Like มากที่สุด, รูปภาพที่ถูกแชร์มากที่สุด และ 20 อันดับเรื่องราวต่างๆ
ระบบสนับสนุนการส่งไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านทางอีเมล
กรีนอีเมลเป็นนวัตกรรมอีเมลใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานะสแปมให้ถูกต้องได้ 100% โดยเปิดโอกาสให้ผู้รับอีเมลได้พิจารณาสถานะได้ด้วยตนเอง โดยเมื่อผู้ส่งทำการส่งอีเมลอออกไประบบกรีนอีเมลนี้จะพักอีเมลดังกล่าวไว้ ก่อน และจะสกัดเฉพาะสาระสำคัญ (Metadata) ที่มีขนาดเล็กมากส่งไปยังผู้รับเพื่อพิจารณาก่อนว่า ต้องการรับหรือไม่ หากต้องการรับระบบจะปล่อยอีเมลต้นฉบับไปยังผู้รับต่อไป วัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบกรีนอีเมลมีดังนี้ ลดปัญหาการวิเคราะห์สแปมผิดพลาด (over/under blocking errors) เปลี่ยนผู้กำหนด criteria สถานะของสแปม จากผู้ดูแลระบบเป็นผู้รับอีเมลเอง ปกป้องสิทธิที่จะไม่รับอีเมลสแปมที่ฝั่งผู้รับไม่ว่าจะเป็น Client และ Server สร้างความรับผิดชอบแก่ผู้ส่งมากขึ้น เพิ่มปัจจัยด้านจริยธรรมของผู้ใช้ในการสนับสนุน Green ICT จุดเด่นเทคโนโลยี Zero Spam 100% Accuracy : การวิเคราะห์สแปมจะถูกต้อง 100% เนื่องจาผู้รับพิจารณาเอง 100% Privacy Protection : ผู้รับถูกปกป้องโดยสมบูรณ์นอกจากผู้รับ Client จะไม่ได้รับสแปมแล้วทาง Server ผู้รับก็ไม่ต้องรับภาระในการเก็บสแปมไว้ก่อน Polite Sender : สร้างจริยธรรมแก่ผู้ส่ง เนื่องจากผู้ส่งจะถูกบังคับให้คำนึงถึง Privacy ผู้รับมากขึ้นทำให้ต้องส่งแต่อีเมลที่คาดว่าผู้รับจะสนใจเท่านั้น Green ICT